“บี.กริม” ฟอร์มดีทำกำไรสุทธิไตรมาส 3 ปี 62 โต 69%

  • หลังรับรู้ผลการดำเนินงานโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ที่เวียดนามเต็มไตรมาส 
  • พร้อมจับมือ Petro Vietnam Power Corporation-JSC ศึกษาการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้า LNG ในเวียดนาม 

นางปรียนาถ สุนทรวาทะ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM ผู้ผลิตไฟฟ้าภาคเอกชนชั้นนำของประเทศไทย เปิดเผยว่า บริษัทได้ประกาศผลประกอบการไตรมาส 3 ปี 2562  มีรายได้จากการขายและการให้บริการเพิ่มขึ้น 21% จากช่วงเดียวกันปีก่อน โดยเป็นผลมาจากการขยายกำลังการผลิตไฟฟ้าถึง 856 เมกะวัตต์ ในช่วง 12 เดือนที่ผ่านมา จากการเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ 11 โครงการ (โรงไฟฟ้า SPP 1 โครงการ (APBR5), โครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในประเทศไทย 7 โครงการ, โรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam Che 1 ใน สปป.ลาว และโครงการผลิตไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ ในเวียดนาม 2 โครงการ) รวมถึงการเข้าซื้อโครงการ SPP1 ในเดือน มี.ค. 2562 

ทั้งนี้ด้านกำไรสุทธิจากงบการเงินรวมอยู่ที่ 1,287 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือหุ้นใหญ่ที่ 763 ล้านบาท ทั้งนี้หากไม่รวมกำไรหรือขาดทุนจากอัตราแลกเปลี่ยนที่ยังไม่เกิดขึ้นจริง และรายจ่ายอื่นที่ไม่เกี่ยวข้องกับการดำเนินงานแล้ว บริษัทมีกำไรสุทธิจากการดำเนินงานจากงบการเงินรวมที่ 1,225 ล้านบาท เป็นส่วนของผู้ถือใหญ่ 715 ล้านบาทซึ่ง เพิ่มขึ้น 69% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน และ 24.3% จากไตรมาสก่อน ซึ่งถือเป็นระดับที่สูงที่สุด 

จากการรับรู้ผลการดำเนินงานจากการขยายกำลังการผลิตดังกล่าว โดยเฉพาะอย่างยิ่งไตรมาสแรกที่รับรู้ผลการดำเนินงานเต็มไตรมาสโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ในเวียดนาม (DT1&2 และ Phu Yen TTP) และโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานน้ำ Nam Che 1 ซึ่งเปิดดำเนินการเชิงพาณิชย์ไปเมื่อเดือน มิ.ย.2562 ประกอบกับปริมาณการใช้เชื้อเพลิง (heat rate) ของโครงการโรงไฟฟ้า ABP3 ที่ลดลงหลังจากการปรับปรุงประสิทธิภาพเครื่องผลิตไฟฟ้ากังหันก๊าซเสร็จสิ้นในช่วงต้นปี ขณะที่อัตรากำไร EBITDA ปรับตัวเพิ่มขึ้นมาอยู่ที่ 28.3% จากการเพิ่มขึ้นของสัดส่วนรายได้จากโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ซึ่งให้อัตรากำไร EBITDA ในระดับสูง

ล่าสุดบริษัทได้ลงนามความร่วมมือกับ PetroVietnam Power Corporation-JSC (รัฐวิสาหกิจขนาดใหญ่ของเวียดนาม) เมื่อต้นเดือนพฤศจิกายน เพื่อศึกษาการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าที่ใช้ก๊าซธรรมชาติเหลว (LNG) เป็นเชื้อเพลิง ขนาดกำลังการผลิตรวม 3,000 เมกะวัตต์ รวมถึงการนำเข้าและจำหน่าย LNG เพื่อใช้เป็นเชื้อเพลิงสำหรับโรงงานผลิตไฟฟ้าในประเทศเวียดนาม