บางจากติดอันดับ 12 ปี’66 คนรุ่นใหม่อยากทำงานมากสุด ชูกลยุทธ์ 100XHappiness ดูแลสต๊าฟมีความสุข 100 เท่า

  • บางจากฯ สร้างชื่อได้คว้าอันดับ 12 จาก 50 องค์กร ที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมทำงานด้วยมากที่สุดปี’66
  • ทำสถิติไต่ระดับดีขึ้นทุกปีตั้งแต่ปี61-65 ชูใช้กลยุทธ์ดูแลพนักงาน
  • 100XHappiness ทำให้สต๊าฟทุกคนมีความสุข 100 เท่า

นายโชคชัย อัศวรังสฤษฎ์ รองกรรมการผู้จัดการใหญ่ กลุ่มงานบริหารและพัฒนาศักยภาพองค์กร บริษัท บางจากคอร์ปอเรชั่น จำกัด  (มหาชน) เปิดเผยว่า บางจากฯ ได้รับรางวัล Top 50 Employers in Thailand 2023 หรือรางวัล 50 องค์กรที่คนรุ่นใหม่อยากร่วมงานด้วยมากที่สุด ประจำปี 2566 โดยมี Mr. Jens Pold ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เวิร์คเวนเจอร์ เทคโนโลจีส์ เป็นผู้มอบรางวัล ซึ่งบางจากได้รับการเสนอชื่อเป็น 1 ใน 50 องค์กรที่น่าทำงานของคนรุ่นใหม่ ติดต่อกันตั้งแต่ปี 2561 มาจนถึงตอนนี้ปี 2566 ได้รับรางวัลลำดับที่ 12 ขยับอันดับดีมากขึ้นจากเมื่อปี 2565 อยู่ในลำดับที่ 17 เท่านั้น

รางวัลที่ได้รับล่าสุดเมื่อเร็ว ๆ นี้ จึงสะท้อนถึง “บางจากฯ”  เป็นองค์กรที่ตอบโจทย์ความต้องการของคนรุ่นใหม่ในการทำงาน ทั้งในด้านประสบการณ์การเข้าร่วมงานและความสามารถในการเข้าหา เข้าถึง เข้าใจกลุ่มเป้าหมาย โดยบางจากฯ ให้ความสำคัญกับการพัฒนาทรัพยากรบุคคล ควบคู่กับการเติบโตขององค์กร โดยมีแนวทางการดูแลพนักงาน 100XHappiness เพื่อให้พนักงานทุกคนมีความสุข 100 เท่า และมุ่งสู่เป้าหมายการเป็นองค์กรเติบโตอย่างยั่งยืน 100 ปี หรือ Bangchak100X

สำหรับ บริษัท บางจาก คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) คือผู้นำการเปลี่ยนผ่านด้านพลังงาน ดำเนินงานภายใต้ 5 ธุรกิจหลัก ประกอบด้วย

กลุ่มที่ 1 ธุรกิจโรงกลั่นและการค้าน้ำมัน เป็นโรงกลั่นแบบ Complex Refinery ทันสมัย โดยปรับเป็น Niche Products Refinery เพื่อผลิตผลิตภัณฑ์ low emission

กลุ่มที่ 2 ธุรกิจการตลาด มีเครือข่ายสถานีบริการน้ำมันกว่า 1,300 แห่ง กับธุรกิจพาณิชย์ที่ไม่ได้มาจากน้ำมันหรือNon – oil เช่น กาแฟอินทนิล น้ำมันหล่อลื่น Furio และ EV charger

กลุ่มที่ 3 ธุรกิจพลังงานไฟฟ้า ผลิตไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนโดย บริษัท บีซีพีจี จำกัด (มหาชน) รุกเข้าสู่ธุรกิจผลิตแบตเตอรี่เพื่อนำมาใช้ในระบบกักเก็บพลังงานขนาดใหญ่

กลุ่มที่ 4  ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพ โดยมี บริษัท บีบีจีไอ จำกัด (มหาชน) เป็นผู้ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายเชื้อเพลิงชีวภาพรายใหญ่ที่สุดในเมืองไทย กำลังขยายสู่ธุรกิจผลิตภัณฑ์ชีวภาพมูลค่าสูง

กลุ่มที่ 5 ธุรกิจทรัพยากรธรรมชาติและธุรกิจใหม่ เป็นการลงทุนสำรวจและผลิตปิโตรเลียมผ่านการถือหุ้นใน OKEA ASA ประเทศนอร์เวย์ ได้การยอมรับว่ามีมาตรฐานด้านการดูแลสิ่งแวดล้อมดีที่สุดแห่งหนึ่งในโลก โดยมีสถาบันนวัตกรรมและบ่มเพาะธุรกิจ (BiiC) เป็นผู้ลงทุน Corporate Venture Capital เน้นลงทุนในธุรกิจใหม่ ๆ ทั้งในและต่างประเทศ และช่วยสร้างระบบนิเวศน์สร้างนวัตกรรมสีเขียว ส่งเสริมและผลักดันนวัตกรรมสนับสนุนการพัฒนาพลังงานสีเขียวและผลิตภัณฑ์ชีวภาพ

อีกทั้งยังได้ก่อตั้ง Carbon Markets Club เดินหน้าส่งเสริมการซื้อขายคาร์บอนเครดิต สนับสนุนการเปลี่ยนผ่านพลังงาน ร่วมก่อตั้งภาคีเครือข่ายเทคโนโลยีชีวภาพแห่งอนาคต SynBio Consortium ด้วย

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen