บอร์ด กนอ. ไฟเขียวอนุมัติตั้งนิคมฯ ร่วมดำเนินการอีก1แห่ง

  • นิคมอุตสาหกรรมเอเพ็กซ์กรีน อิสดัสเตรียล เอสเตท
  • ตั้งอยู่ในจังหวัดฉะเชิงเทรารองรับอีอีซี
  • ลงทุน 6.4 หมื่น ล้านบาท  จ้างงานเพิ่ม 1.6 หมื่นคน

นายวีริศ อัมระปาล ผู้ว่าการการนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (กนอ.) เปิดเผยว่า  ที่ประชุมคณะกรรมการ กนอ.(บอร์ด กนอ.)มีมติ อนุมัติให้กนอ.ไปจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมใหม่ อีก1 แห่ง โดยร่วมดำเนินงานกับบริษัท เอเพ็กซ์ ปาร์ค จำกัด ในรูปแบบของนิคมอุตสาหกรรมร่วมดำเนินงาน เพิ่มพื้นที่เพื่อรองรับการลงทุนในเขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก(อีอีซี)และ การขยายตัวของอุตสาหกรรมเป้าหมาย (S-Curve )และ อุตสาหกรรมใหม่(New S-Curve) ตามนโยบายส่งเสริมและสนับสนุนการจัดตั้งนิคมอุตสาหกรรมในพื้นที่ที่มีศักยภาพตามยุทธศาสตร์ของประเทศเชิงพื้นที่ (Area based) โดยเอกชนเป็นผู้ลงทุนพัฒนาและให้บริการระบบสาธารณูปโภคภายใต้การกำกับของ กนอ.

สำหรับ นิคมอุตสาหกรรมเอเพ็กซ์กรีน อิสดัสเตรียล เอสเตท ตั้งอยู่ใน อำเภอแปลงยาว จังหวัดฉะเชิงเทรา พื้นที่ 2,191 ไร่ โดยที่ตั้งของโครงการฯ อยู่ห่างจากท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ 80 กิโลเมตร (กม.)ท่าเรือพาณิชย์แหลมฉบัง 100 กม. สนามบินอู่ตะเภา 120กม.  ห่างจากท่าเรืออุตสาหกรรมมาบตาพุด 130 กม. สภาพพื้นที่โครงการเป็นพื้นที่ดอน ที่ไม่มีความเสี่ยงต่อน้ำท่วมถึง

ทั้งนี้ ในส่วนของตัวโครงการแบ่งพื้นที่เป็นพื้นที่เขตอุตสาหกรรมทั่วไป 1,600 ไร่ พื้นที่สาธารณูปโภค พื้นที่สีเขียวและแนวกันชน 591 ไร่ จะเปิดให้บริการเชิงพาณิชย์ได้ในปี2566 มูลค่าการลงทุน 64,000 ล้านบาท เกิดการจ้างแรงงานเพิ่มขึ้นอีก 16,000 คน ในกลุ่มอุตสาหกรรมผลิตผลิตภัณฑ์โลหะ เครื่องจักร และอุปกรณ์ขนส่ง ,เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ ,เกษตรกรรมและผลผลิตจากการเกษตรที่มีความต้องการใช้น้ำต่ำ ,อุตสาหกรรมเบา , อุตสาหกรรมที่ ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง 

ขณะเดียวกัน การจัดตั้งนิคมฯดังกล่าว ได้นำแนวคิดนิคมอุตสาหกรรมเชิงนิเวศ (Eco Industrial Town) มาประยุกต์ใช้ในการออกแบบ โดยจัดให้มีพื้นที่สีเขียวและพื้นที่แนวกันชนรอบพื้นที่โครงการฯ รวมทั้งจัดสรรพื้นที่สีเขียวภายในนิคมอุตสาหกรรม และในส่วนของน้ำทิ้งได้นำไปผ่านการบำบัดและปรับปรุงคุณภาพก่อนนำกลับไปใช้ประโยชน์ใหม่ (Recycle) เพื่อลดอัตราการระบายน้ำทิ้งออกนอกพื้นที่ ใช้แนวคิดออกแบบอาคารแบบอารยสถาปัตย์ และออกแบบอาคารเพื่อการอนุรักษ์พลังงาน (Green Building) ลดการใช้พลังงาน การปล่อยก๊าซเรือนกระจก เป็นต้น

#Thejournalistclub #การนิคมอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย #วัคซีนโควิด