- สื่อคาดเจรจาการค้าระหว่างจีน-สหรัฐฯ 10-11 ต.ค.นี้ไม่ง่าย
- ขณะที่เจ้าหน้าที่ระดับสูงสหรัฐฯ มองในแง่ดีจะมี “เซอร์ไพร์ส”
- นักลงทุนคาดเฟดจะลดดอกเบี้ยต่อในการประชุมสิ้นเดือนนี้
เมื่อเวลาประมาณ 22.55 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 26,524.26 จุดลดลง 49.46 จุด หรือ -0.19% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิท เคลื่อนไหวอยู่ที่ 7,988.17 บวกเพิ่มขึ้น 5.69 จุด หรือ +0.07% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,948.24 จุด ติดลบ 3.77 จุดหรือ -0.13%
นักลงทุนชะลอการซื้อ ในวันแรกของสัปดาห์นี้ หลังจากดาวโจนส์ปรับเพิ่มขึ้นในปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา นักลงทุนจับตาการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน ในระดับรัฐมนตรีในวันที่ 10-11 ต.ค.นี้ ที่กรุงวอชิงตัน ขณะที่นายหลิว เหอ รองนายกรัฐมนตรีจีน จะเป็นผู้นำคณะเจรจาการค้าของจีน
สื่อต่างประเทศหลายแห่งรายงาน โดยอ้างการเปิดเผยของสำนักข่าวบลูมเบิร์กว่า ตัวแทนเจรจาการค้าของจีนไม่ต้องการนำประเด็นปฏิรูปนโยบายให้เงินอุดหนุนจากรัฐบาล ขึ้นสู่โต๊ะเจรจาการค้ากับสหรัฐ แม้ประเด็นดังกล่าวถูกสหรัฐเพ่งเล็งเป็นเวลานาน ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่า จีนต้องการปรับลดขอบเขตการเจรจาการค้า
นักวิเคราะห์เปิดเผยว่า ความเคลื่อนไหวดังกล่าวสะท้อนให้เห็นว่าจีนกำลังแข็งข้อ จ้าหน้าที่จีนไม่ต้องการทำข้อตกลงการค้าในวงกว้างตามที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ต้องการ ในช่วงเวลาที่รัฐบาลสหรัฐกำลังได้รับแรงกดดันจากกระบวนการถอดถอนประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ขณะที่แหล่งข่าวจากรัฐบาลสหรัฐยืนยันว่า กระบวนการถอดถอนดังกล่าวไม่กระทบต่อการเจรจาการค้ากับจีน
อย่างไรก็ดี นายแลร์รี่ คุดโลว์ ที่ปรึกษาฝ่ายเศรษฐกิจประจำทำเนียบขาว กล่าวเมื่อวันศุกร์ว่า “จะมีเซอร์ไพรส์”ในการเจรจาการค้าระหว่างสหรัฐและจีน
“จะมีเรื่องน่าประหลาดใจในทางที่ดีในการเจรจา ผมไม่ได้ให้คำทำนาย แต่ผมเพียงแต่กล่าวว่า อย่าได้มองข้ามความเป็นไปได้นี้ โดยอาจจะมีเซอร์ไพรส์ โดยก่อนการเจรจาในครั้งนี้ จีนได้สั่งซื้อสินค้าเกษตรหลายรายการ ถึงแม้จะเป็นจำนวนไม่มากนัก แต่ก็ถือเป็นสัญญาณที่ดี” นายคุดโลว์กล่าว
นอกจากนี้ นักลงทุนยังจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในปลายเดือนนี้ โดย FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนคาดการณ์ว่า มีโอกาสราว 74.3% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% ในการประชุมนโยบายการเงินในเดือนนี้
หลังจากที่มีการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอในภาคการผลิตและภาคบริการของสหรัฐ โดยได้รับผลกระทบจากสงครามการค้าสหรัฐ-จีน รวมทั้งการเปิดเผยตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรที่เพิ่มขึ้นต่ำกว่าคาดในเดือนก.ย. แม้อัตราการว่างงานแตะระดับต่ำสุดในรอบ 50 ปี
