ดาวโจนส์ปิดบวก 146 จุด พอใจผลประกอบการ-จับตาประชุมเฟด

  • มีแรงซื้อเก็งกำไรผลประกอบการบริษัทที่คาดว่าจะออกมาดีกว่าคาด
  • นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ที่จะเริ่มต้นคืนนี้
  • ตลาดคาดเฟดยังคงตรึงดอกเบี้ยไว้ที่เดิมในการประชุมครั้งนี้

ผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนที่ทยออยออกมาดีกว่าคาด และการพุ่งขึ้นของหุ้นเทสลาและหุ้นแอปเปิ้ล ช่วยหนุนดัชนีหุ้นสหรัฐฯปิดบวก ขณะที่นักลงทุนจับตาการประชุมของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ เพื่อประเมินแนวโน้มอัตราดอกเบี้ยของเฟด

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 29 เม.ย.ที่ 38,386.09 จุด เพิ่มขึ้น 146.43 จุด หรือ +0.38%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,116.17 จุด เพิ่มขึ้น 16.21 จุด หรือ +0.32% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 15,983.08 จุด เพิ่มขึ้น 55.18 จุด หรือ +0.35%

นักลงทุนซื้อหุ้นตามผลประกอบการที่ดีขึ้น โดยหุ้นกลุ่มสินค้าฟุ่มเฟือย กลุ่มสาธารณูปโภค กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ กลุ่มวัสดุ และกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้น ส่วนหุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารและกลุ่มการเงินร่วงลง จากผลประกอบการที่อาจจะถูกกระทบจากภาวะเศรษฐกิจและดอกเบี้ยที่อยู่ในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้

หุ้นเทสลาทะยานขึ้น 15.3% หลังจากเทสลาเปิดเผยว่า รัฐบาลจีนได้ยกเลิกข้อจำกัดที่มีต่อรถยนต์เทสลา หลังผ่านเกณฑ์ความปลอดภัยด้านข้อมูลของจีน โดยการดำเนินการดังกล่าวจะเปิดทางสำหรับการใช้ระบบ Full Self-Driving หรือ FSD ในจีนซึ่งเป็นตลาดรถยนต์ไฟฟ้า (EV) ของเทสลาที่ใหญ่เป็นอันดับ 2 รองจากสหรัฐ

หุ้นแอปเปิ้ล พุ่งขึ้น 2.5% หลังจากมีรายงานว่า แอปเปิ้ลได้เริ่มการหารือครั้งใหม่กับโอเพนเอไอ (OpenAI) เกี่ยวกับการใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์รู้สร้าง (Generative AI) ของโอเพนเอไอ โดยจะมีการรวมฟีเจอร์ของโอเพนเอไอเข้ากับ iOS 18 ซึ่งเป็นระบบปฏิบัติการใหม่ของแอปเปิ้ล

หุ้นโดมิโน่ พิซซ่า พุ่งขึ้น 5.6% หลังบริษัทเปิดเผยกำไรต่อหุ้นในไตรมาส 1/2567 อยู่ที่ 3.58 ดอลลาร์ สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 3.39 ดอลลาร์

นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงแอปเปิ้ล แมคโดนัลด์ โคคา-โคลา และอะเมซอน โดยข้อมูลจากแอลเอสอีจี (LSEG) ระบุว่า ขณะนี้มีบริษัท 233 แห่งในดัชนี S&P500 ที่ได้รายงานผลประกอบการแล้ว โดย 78.1% ของบริษัทเหล่านี้รายงานผลประกอบการที่สูงเกินคาด เทียบกับค่าเฉลี่ยระยะยาวซึ่งอยู่ที่ 67%

ขณะเดียวกันนักลงทุนจับตาการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 30 เม.ย. – 1 พ.ค.นี้ รวมทั้งการแถลงข่าวของนายเจอโรม พาวเวล ประธานเฟด เพื่อหาสัญญาณบ่งชี้ถึงการปรับลดอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกของเฟดในปีนี้ ขณะที่ข้อมูลจากแอลเอสอีจีระบุว่า ตลาดคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงเพียง 0.35% ปีนี้ จากที่เคยคาดการณ์ไว้ก่อนหน้านี้ว่าเฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 1.50% ในปีนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังรอดูข้อมูลแรงงานของสหรัฐหลายรายการในสัปดาห์นี้ โดยเฉพาะการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนเม.ย.

นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐจะเพิ่มขึ้นเพียง 243,000 ตำแหน่งในเดือนเม.ย. ซึ่งชะลอตัวลงหลังจากที่เพิ่มขึ้น 303,000 ตำแหน่งในเดือนมี.ค. และคาดว่าอัตราว่างงานจะทรงตัวที่ระดับ 3.8% ในเดือนเม.ย.