“ธรรศพลฐ์”วอนรัฐ “ตั้งกองทุนหมื่นล้าน”พยุงอุตสาหกรรมการบิน ท่องเที่ยวทั้งระบบ

  • เห็นด้วยอย่างมาก นโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย.นี้
  • แอร์เอเชัย พร้อมบริการเต็มรูปแบบ
  • เส้นทางบินต่างประเทศ และในประเทศ

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย ได้แสดงความคิดเห็นถึงกรณีที่ รัฐบาลประกาศนโยบายเปิดประเทศ 1 พ.ย.ว่า นโยบายดังกล่าวสายการบินไทยแอร์เอเซีย เห็นด้วยอย่างมากและพร้อมที่จะให้บริการเต็มรูปแบบด้วยเครื่องบิน 60 ลำ ทั้งเส้นทางบินต่างประเทศ และ เส้นทางบินในประเทศ เนื่องจากเป็นห้วงเวลาที่ดีเหมาะสมกับนักท่องเที่ยวที่เดินทางมาถึงประเทศไทยแล้วไม่ต้องกักตัว ขณะเดียวกันทางภาครัฐคือ รัฐบาล กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา รวมถึงกระทรวงการต่างประเทศ จะต้องมีมาตรการออกมาให้ชัดเจนว่าจะมีการคัดกรองนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาอย่างไร เนื่องจากเมื่อเปิดประเทศแล้วจะมีนักท่องเที่ยวจากทั่วโลกเดินทางเข้ามา และ แต่ละคนมาแต่ละประเทศที่มีการฉีดวัคซีนที่แตกต่างกัน  

นายธรรศพลฐ์ แบเลเว็ลด์ ประธานกรรมการบริหาร สายการบินไทยแอร์เอเชีย

นายธรรศพลฐ์ ยังได้กล่าวเป็นห่วงต่อว่า ต้องทำความเข้าใจก่อนว่าก่อนที่จะมีนโยบายเปิดประเทศ กลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม และ อุตสาหกรรมการบิน ในภาพรวมและธุรกิจเกี่ยวเนื่อง เหมือนตายไปแล้ว จากผลกระทบการแพร่ระบาดโควิด 19  การที่จะกลับมาประกอบกิจการ ให้บริการใหม่จะต้องมีเงินทุนที่จะเอามาปรับปรุงเพื่อเดินหน้ากิจการต่อ 

ทั้งนี้จึงอยากให้ภาครัฐ ตั้งกองทุนขึ้นมาเพื่อช่วยเหลือกลุ่มธุรกิจการท่องเที่ยว โรงแรม และ อุตสาหกรรมการบิน ในภาพรวมและธุรกิจเกี่ยวเนื่องทั้งหมด ซึ่งจะรวมไปถึงสตาร์อัพ ในธุรกิจนี้ด้วย โดยกองทุนนี้ภาครัฐควรเป็นเจ้าภาพ ใส่งบประมาณตั้งต้น และที่เหลือภาคเอกชนที่เกี่ยวเนื่องเข้ามาสมทบในกองทุน เมื่อกองทุนนี้ตั้งขึ้นมาก็จะสามารถให้ธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องสามารถใช้เงินจากกองทุนไปปรับปรุงกิจการเพื่อให้เดินหน้าต่อไป

ซึ่งวงเงินกองทุนที่เหมาะสมอยู่ที่ 10,000 ล้านบาท มองว่าไม่ได้มาก หากเมื่อเทียบกลับจะพบว่า อุตสาหกรรมการบิน และ อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง ในแต่ละปีสามารถสร้างรายได้ให้ประเทศปีละแสนๆล้านบาท  หรือคิดเป็นรายได้เข้าประเทศกว่า 12-13%ของจีดีพีประเทศ

นอกจากนี้อยากให้รัฐบาลมีนโยบายเปิดประเทศที่ชัดเจนและต่อเนื่อง เนื่องจากผู้ประกอบการสายการบิน  โรงแรม ห้างสรรพสินค้า ร้านค้าปลอดภาษี รวมถึงสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆที่จะรองรับนักท่องเที่ยว และนักเดินทาง จะได้มีการวางแผนการตลาด อัดโปรโมชั่นได้ถูกต้องและชัดแบบเป็นระบบ ช่วงเวลาเดียวกัน 3 เดือน 6 เดือนหรือ ตลอดทั้งปี ไม่ใช่ออกแคมเปญตัวใครตัวมัน

ขณะเดียวกันอยากให้ภาครัฐกำหนดเงื่อนไขออกมาให้ชัดเจน นอกจากฉีดวัคซีน 2โดสแล้วจะต้องมีเอกสารหลักฐานอะไรประกอบด้วย หรือ นอกจากประเทศที่ผ่อนคลายแล้ว หากมีนักท่องเที่ยวนอกเงื่อนไขเดินทางเข้ามา จะต้องมีเอกสารหลักฐานอะไรบ้าง เช่นประเทศจีน แต่ละมณฑลก็มีเงื่อนไขต่างกัน หรือนักท่องเที่ยวจากทางยุโรป เป็นต้น เพื่อให้เมื่อนักท่องเที่ยวเดินทางเข้ามาแล้ว ไม่เกิดความวุ่นวายในเรื่องของเอกสารประกอบต่างๆ

นายธรรศพลฐ์ กล่าวต่อว่า ส่วนกระทรวงท่องเที่ยว สภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย(ส.อ.ท.) ,หอการค้าไทย และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง ควรที่จะคุยกันในการกำหนดกิจกรรมเพื่อให้เกิดการท่องเที่ยว กีฬา ตลอดทั้งปี รวมถึงการนำศิลปินดังระดับโลกเข้ามาจัดคอนเสริ์ตในประเทศไทย เพื่อเป็นการดึงนักท่องเที่ยวทั้งทวีปยุโรป และ เอเซีย เข้ามาร่วมกิจกรรม ซึ่งหากภาครัฐกระตุ้นให้เกิดกิจกรรมก็มั่นใจว่า ธุรกิจท่องเที่ยวและเกี่ยวเนื่องกลับมาฟื้นอย่างแน่นอน