“ทิพานัน” รัวหมัดใส่ “ธนาธร” ลั่นอย่าดีแต่พูด-โพสต์ ข้อมูลบิดเบือน โจมตีรัฐบาล

  • ยกตัวอย่างข้อมูลวัคซีนโควิด-19 ที่ยังคงใช้ข้อมูลเก่าๆ มาพูด
  • แนะหากอยากเป็นคนรอบรู้ ก็อยากให้นายธนาธร รู้จักหมั่นอัปเดตข้อมูลให้ถูกต้อง
  • ย้อนถามสิ่งที่แสดงความคิดเห็นอยู่ ต้องถามว่ามีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมอย่างไร

น.ส.ทิพานัน ศิริชนะ อดีตรองโฆษกพรรคพลังประชารัฐ กล่าวถึงกรณีที่นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ได้โพสต์ข้อความทางเพจเฟซบุ๊กเกี่ยวกับประเด็นเรื่องวัคซีนโควิด-19 และการแสดงความคิดเห็นผ่านทางแอปพลิเคชั่นคลับเฮาส์ว่า นายธนาธรน่าจะมีปัญหาเรื่องความจำ จึงทำให้สื่อสารแต่ข้อมูลเก่าๆ จนสังคมสับสน

“นายธนาธรยังยึดติดแต่ข้อมูลเดิมๆ เก่าๆ ตั้งแต่ 26 พ.ย. 63 มากล่าวหาปรักปรำคนทำงานว่าเขาโกหกไม่ได้ ทั้งนี้หากอยากเป็นคนรอบรู้นายธนาธรต้องรู้จักหมั่นอัปเดตข้อมูลให้ถูกต้อง เพิ่มความจุความจำสมองให้สอดคล้องกับข้อมูลที่เพิ่มมากขึ้น ซึ่งจะขอสรุปให้ฟังอีกครั้งว่า แผนการจัดหาวัคซีนโควิด-19 ณ ปัจจุบันของไทย ปี 2564 มีทั้งหมด63 ล้านโดส คือ วัคซีนซิโนแวก 2 ล้านโดส และวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า 61 ล้านโดส และยังมีการจัดหาเพิ่มเติมต่อเนื่องเพื่อฉีดให้ประชาชนอย่างน้อย 63 ล้านโดส ภายในปี 2564” น.ส.ทิพานัน กล่าว

น.ส.ทิพานัน กล่าวต่อว่า หากนายธนาธรเปิดรับข้อมูลที่เป็นจริงจะพบว่า รัฐบาลไม่เคยมีนโยบายปิดกั้นหรือผูกขาดภาคเอกชนนำเข้า และใช้วัคซีนโควิด-19 ซึ่งขณะนี้มีผู้ยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด-19 กับสำนักงานคณะกรรมการอาหารและยา (อย.) แล้ว 4 ราย ซึ่งได้รับการขึ้นทะเบียนแล้ว 2 ราย คือวัคซีนแอสตร้าเซนเนก้า ของ บจก. แอสตร้าเซนเนก้า (ประเทศไทย) และโคโรนาแวค ของ บ.ซิโนแวค นำเข้าโดยองค์การเภสัชกรรม และอีก 2 ราย ได้แก่ วัคซีนของจอห์นสันแอนด์จอห์นสัน โดย บจก. แจนเซ่น-ซีแลก และวัคซีนของ บ. บารัต ไบโอเทค เทคโนโลยี โดย บจก.ไบโอจีนีเทค อยู่ระหว่างการยื่นเอกสาร

ทั้งนี้รัฐบาลโดยกระทรวงสาธารณสุขยังได้สั่งการให้ อย. อำนวยความสะดวก เปิดช่องทางพิเศษในการขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด สำหรับภาคเอกชนมายื่นเป็นผู้รับอนุญาตนำหรือสั่งยาเข้ามาในราชอาณาจักรก่อน และยื่นขอขึ้นทะเบียนวัคซีนโควิด จากนั้น อย.จะพิจารณาจากเอกสาร ด้านคุณภาพ ความปลอดภัย และประสิทธิผล เพื่อให้สามารถอนุมัติทะเบียนโดยเร็วที่สุด ในส่วนผู้ได้รับอนุญาตนำเข้ายาอยู่แล้ว เช่น โรงพยาบาลเอกชน หากประสงค์จะนำเข้าวัคซีนโควิด ก็ต้องมาขอขึ้นทะเบียนวัคซีนอีกครั้ง ซึ่งเป็นไปตามหลักปฏิบัติสากล

น.ส.ทิพานัน กล่าวด้วยว่า ขณะนี้หอการค้าไทย สภาหอการค้าและสภาอุตสาหกรรม ก็กำลังสำรวจความต้องการของสถานประกอบการในการฉีดวัคซีนให้กับพนักงาน เพื่อนำมารวบรวมสำหรับเตรียมความพร้อมด้านต่างๆ ร่วมกับภาครัฐบาลอีกด้วย ดังนั้นจะเห็นว่าทุกอย่างเป็นไปอย่างรอบคอบ มีแผนรองรับอย่างปลอดภัย

“สิ่งที่นายธนาธรแสดงความคิดเห็น ต้องถามว่ามีจิตสำนึกที่ดีต่อสังคมอย่างไร สิ่งที่นายธนาธรทำคล้ายว่านายธนาธรรู้ทุกเรื่อง ยกเว้นความจริง หลายครั้งข้อมูลก็ถูกบิดเบือนไปจากข้อเท็จจริง ดังนั้นจึงอยากขอให้นายธนาธรหยุดสื่อสารข้อมูลที่ผิดพลาดคลาดเคลื่อน จนทำให้สังคมสับสน คนทำงานก็เสียกำลังใจกันไปหมด และหากหวังดีกับประเทศก็ทำได้ง่ายๆ คือ หยุดพูด หยุดโพสต์ ข้อมูลที่ไม่เป็นความจริง ก็จะเป็นประโยชน์กับประเทศชาติและเป็นกำลังใจให้กับบุคลากรทางการแพทย์และคนทำงานได้อย่างดีที่สุด” น.ส.ทิพานัน กล่าว