“ทรัมป์” สั่งยุติการเจรจาเพื่อออกมาตรการเศรษฐกิจสหรัฐครั้งใหญ่ ไปจนกว่าเขาจะชนะการเลือกตั้ง

สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานว่า“โดนัลด์ ทรัมป์”  ประธานาธิบดี กล่าวว่าเขาได้บอกให้ทีมเจรจายุติการเจรจากับผู้นำพรรคเดโมเครต เกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจครั้งใหม่ทันทีไปจนกว่าจะมีการเลือกตั้ง และทันทีที่ตชนะการเลือกตั้งจะผ่านกฏหมายกระต้นเศรษฐกิจครั้งใหญ่โดยโฟกัสการช่วยเหลือไปยังชาวอเมริกันที่ทำงานหนักและกลุ่มธุรกิจขนาดเล็ก

เขาได้ทำการทวีตด้วยว่า “แนนซี่ เพโลซี่ (ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ) ได้เรียกร้องมาตรการสนับสนุนจำนวน 2.4 ล้านล้านดอลลาร์เพื่อการช่วยเหลือรัฐของพรรคเดโมเครต ซึ่งเป็นรัฐที่มีผลการดำเนินงานไม่ดี และมีการก่ออาชญากรรมสูงในเขตปกครองของเดโมเครต ซึ่งเป็นงบประมาณที่ไม่เกี่ยวข้องกับการฟื้นฟูผลกระทบจากโควิด-19 ขณะที่เรายื่นข้อเสนออย่างใจกว้างเป็นจำนวน 1.6 ล้านล้านดอลลาร์ และเช่นเคยที่เธอไม่ได้เจรจาโดยบริสุทธิใจ ดังนั้นผมจึงกำลังปฏิเสธข้อเสนอของพวกเขา”

ผลกระทบจากข่าวนี้ทันที ตลาดหุ้นร่วงทันทีหลังดัชนีดาวน์โจนส์ติดลบ 375 จุด ที่ 27,772.76 จุด  ด้านราคา พุ่งทะยานต่อเนื่อง ในขณะที่นักลงทุนจับตาดูสถานการณ์การประท้วงหยุดงานที่นอร์เวย์ ซึ่งอาจกระทบการผลิตน้ำมันดิบ และความเคลื่อนไหวของเฮอริเคน เดลตา ซึ่งกำลังทำให้การผลิตนำ้มันในอ่าวเม็กซิโกหยุดชะงัก

สัญญาซื้อขายน้ำมันดิบล่วงหน้า เวสต์เทกซัส อินเตอร์มีเดียต (WTI) งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.45 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.7% ไปอยู่ที่ 40.67 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล ขณะที่สัญญาน้ำมันดิบ เบรนต์ทะเลเหนือลอนดอน งวดส่งมอบเดือนพฤศจิกายน เพิ่มขึ้น 1.36 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 3.3% ไปอยู่ที่ 42.65 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อบาร์เรล

ส่วนราคาทองคำลดลงปานกลางในวันอังคาร หลังค่าเงินดอลลาร์ทรงตัว ขณะที่ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น โดยสัญญาซื้อขายทองคำล่วงหน้าตลาดโคเม็กซ์ งวดส่งมอบเดือนธันวาคม ลดลง 11.30 ดอลลาร์สหรัฐฯ หรือราว 0.6% ปิดที่ 1,908.80 ดอลลาร์สหรัฐฯต่อออนซ์