- ชวนช้อป “โอทอป ซิตี้ 2019” 15-23 ธ.ค.นี้
- ใช้เงินผ่าน “ชิม ช้อป ใช้”กระเป๋า 2 รับ แคชแบ็ค 15-20%
- มหาดไทยดันยอดขายปีงบประมาณ 2563 ทะลุ 3 แสนล้านบาท
นายทรงศักดิ์ ทองศรี รมช.มหาดไทย เป็นประธานแถลงข่าวการจัดงาน OTOP City 2019 ภายใต้แนวคิด “เทศกาลของขวัญปีใหม่ ของฝากถูกใจ ผลิตภัณฑ์ทั่วไทยรวมไว้ใน OTOP City 2019” ระหว่างวันที่ 15-23 ธ.ค.นี้ รวม 9 วัน ที่อาคารชาเลนเจอร์ 1 – 3 อิมแพ็ค เมืองทองธานี คาดว่าจะเกิดยอดขายในงานนี้ร่วม 1,400 ล้านบาท มีผู้เข้าร่วมงานไม่น้อยกว่า 500,000 คน และผู้ผลิตหรือผู้ประกอบการไม่น้อยกว่า 3,500 รายซึ่งจะเติมและเพิ่มรายได้ให้กับผู้ประกอบการที่เป็นชาวบ้านทั่วประเทศ และตลอดปีงบประมาณ 2563 (ต.ค. 2562-ก.ย.2563) จะมุ่งผลักดันให้การจำหน่ายสินค้าชุมชนโอทอปทะลุ 300,000 ล้านบาท ภายหลังจากในปีงบประมาณ 2562 สร้างยอดขายได้ 237,255 ล้านบาท เป็นยอดขายที่เพิ่มขึ้นมาทุกๆ ปี เมื่อเทียบกับตอนเริ่มโครงการหนึ่งตำบล หนึ่งผลิตภัณฑ์หรือโอทอป ในปี 2546 มียอดขายตลอดปี 50,000 ล้านบาท
“สินค้าโอทอปมีการพัฒนาเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ ผมเองยังตะลึงเจอผ้าไหมแต้มตะกอ ของจ.อุทัยธานี ราคาผืนละ 800,000 บาท พอทอเสร็จมีคนจองทันที และเป็นรายได้ที่ลงสู่ชุมชนจริงๆ ขณะที่ผลการจัดงานโอทอป ที่ผ่านมา 13 ครั้ง 13 ปี สามารถสร้างรายได้จากการจำหน่ายสินค้าโอทอป มากกว่า 13,000 ล้านบาท ก่อให้เกิดประโยชน์อย่างถึงรากหญ้าแท้จริง”
ด้านนายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ อธิบดีกรมการพัฒนาชุมชน กล่าวเพิ่มเติมว่า การจัดงานในครั้งนี้ เป็นการจัดงานระดับประเทศ ที่มีความพิเศษและมีกิจกรรมที่หลากหลาย มีสินค้ามากกว่า 20,000 รายการ เหมาะสำหรับการไปเลือกซื้อของขวัญปีใหม่ เพราะมีโซนของขวัญปีใหม่ การจัดแสดงและจำหน่ายผลิตภัณฑ์ OTOP ของขวัญของฝาก จาก 40 จังหวัดเป็นการเฉพาะ ขณะที่กระทรวงการคลังจะนำทีมงานจากธนาคารกรุงไทย ไปอำนวยความสะดวกให้ผู้ประกอบการที่เข้าร่วม 3,500 รายสมัครเข้าร่วมเป็นผู้ขายในโครงการ “ชิม ช้อป ใช้” ตามความสมัครใจ
ดังนั้น ประชาชน 14 ล้านคนที่อยู่สมัครเข้าโครงการ“ชิม ช้อป ใช้” สามารถใช้เงินกระเป๋า 2 มาช้อปปิ้งในงานนี้จะเหมือนได้ส่วนลด 15-20%เพราะรัฐบาลมีแคชแบ็คให้ สำหรับผู้ซื้อ 30,000 บาทแรก 15% และส่วนที่เกินจากนั้นถึง 50,000 บาทได้คืน 20% หรือได้คืนสูงสุด 8,500 บาท และภายในงานยังกิจกรรมจับรางวัลชิงโชค เพียงช้อปครบทุก 1,000 บาท ลุ้นรับรางวัลสร้อยคอทองคำหนัก 1 สลึง ทุกวัน ๆ ละ 10 เส้น รวม 90 รางวัล พิเศาสุดในวันสุดท้ายลุ้นรับรางวัลใหญ่ สร้อยคอทองคำหนัก 5 บาท จำนวน 5 รางวัล มูลค่า 500,000 บาท
นายประวิช สุขุม ผู้อำนวยการสำนักสื่อสารองค์การ บริษัท ไทยเบฟเวอเรจ จำกัด (มหาชน) ในฐานะฝ่ายเลขาภาคเอกชน ภายใต้คณะทำงานการพัฒนาเศรษฐกิจฐานรากและประชารัฐ กล่าวว่า ยอดขายสินค้าชุมชนโอทอป ในระดับ 237,255 ล้านบาทนั้น เทียบเท่าผลประกอบการของบริษัทมหาชนที่อยู่ในตลาดหลักทรัพย์ แต่ดีกว่าตรงที่รายได้ทั้งหมดลงเข้าสู่ชาวบ้านทั่วประเทศ 30 ล้านคนโดยตรง และจะเห็นว่ายอดขายที่เพิ่มขึ้นในทุกๆ ปี มีการเติบโต 10-20% ในทุกๆ ปี ภายใต้อัตราการขยายตัวทางเศรษฐกิจของประเทศ 3% ซึ่งหากเทียบผลดำเนินงานของภาคเอกชน ภายใต้ภาวะแบบนี้ทำได้เติบโต 3% ก็เก่งแล้ว แต่ปรากฏว่ายอดขายสินค้าชุมชนโอทอปกลับโตได้ปีละ 10-20% และเงินลงไปสู่ชุมชนคนครึ่งประเทศ จึงถือเป็นเรื่องที่น่าภาคภูมิใจอย่างมา
นายชญทรรศ วิเศษศรี เจ้าของและผู้ออกแบบลวดลายผ้าไหมแต้มตะกอ จ.อุทัยธานี กล่าวว่า ได้เลือกเส้นไหมที่ดีที่สุดของประเทศไทยจาก จ.เพชรบูรณ์ และ จ.ชัยภูมิ มาใช้ทอเป็นผ้าไหมจก โดยตั้งชื่อ ว่า “ ปทมผล” ซึ่งเป็นลายดอกบัว และ “ปทมนาคา” เป็นลายพญานาค มีชาวบ้านผู้ทอสองผืนนี้อายุ 67 ปี ใช้เวลาทอผืนละ 18 เดือน จำหน่ายราคาผืนละ 700,000-800,000 บาท ผู้ที่มาซื้อส่วนใหญ่จะซื้อเพื่อสะสม ขณะที่ผืนอื่นๆ ราคาเริ่มต้น 30,000 บาทขึ้นไป
