ถึงคิวผู้สูงวัย…“บิ๊กตู่” เคาะงบกลางเยียวยากลุ่มสูงอายุ วงเงิน 8.3 พันล้าน ช่วยเหลือ 100-250 บาทต่อคนต่อเดือน

  • เผยภายใน ก.ค.นี้ จะเริ่มจ่ายผู้สูงอายุครั้งแรกเป็นเวลา 4 เดือน
  • ลั่นเวลานี้ ทุกคนต้องหาทางช่วยกัน รัฐบาลก็ทำเท่าที่ทำได้ ย้ำไม่มีผลต่องบประมาณโดยรวมมากนัก
  • พร้อมไฟเขียว ช่วยผู้ประกอบการโรงแรมยกเว้นค่าธรรมเนียม 40 บาทต่อห้อง
  • เอ่ยพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้า โดยเฉพาะการคลี่คลายความโศกเศร้าให้ประชาชน

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (5 ก.ค.65) ที่ทำเนียบรัฐบาล พล.อ.ประยุทธ์​ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และรมว.กลาโหมได้แถลงภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) โดยบรรยากาศวันนี้ พล.อ.ประยุทธ์ ได้เดินมาที่โพเดี้ยมแถลงข่าวพร้อมกับฮัมเพลงออกมาอย่างอารมณ์ดี ซึ่งหลังจากนั้นก็ได้มีการถอนหายใจยาว

ทั้งนี้ จากนั้น พล.อ.ประยุทธ์ ก็ได้เริ่มแถลงว่า ประเทศไทยวันนี้ ยังมีปัญหาหลายอย่างที่จำเป็นต้องร่วมมือในการแก้ไขโดยตนในฐานะรัฐบาลก็พยายามอย่างเต็มที่ เพื่อดูแลช่วยเหลือประชาชน โดยเฉพาะด้านเศรษฐกิจ ความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชน โดยจากวิกฤตพลังงานของโลกที่เกิดขึ้น ตนก็เข้าใจดี ทุกคนเข้าใจ ครม.เข้าใจถึงความลำบากของประชาชนในพื้นที่ในเวลานี้ 

“ขอให้พี่น้องมั่นใจว่าประเทศไทยมีแผนยุทธศาสตร์เพื่อรองรับสถานการณ์ ทั้งระยะสั้น 3 เดือน ระยะกลาง 6 เดือนและระยะยาว 1 ปี เพื่อให้เราเชื่อมั่นว่าประเทศไทย จะไม่เกิดการขาดแคลนทั้งด้านพลังงานและอาหาร โดยมีการจัดตั้งคณะกรรมการเฉพาะกิจ เพื่อบริหารสถานการณ์ทางเศรษฐกิจ เพื่อเร่งรัดจัดทำมาตรการแก้ปัญหาอย่างเป็นรูปธรรมมากที่สุด” นายกรัฐมนตรี กล่าว

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวต่อว่า เพื่อเป็นการช่วยเหลือพี่น้องประชาชนกลุ่มเปราะบาง การประชุมครม.วันนี้ จึงได้มีการอนุมัติจัดสรรงบประมาณปี 65 ที่เคยเห็นชอบหลักการไปแล้วเพื่อจ่ายเงินพิเศษช่วยเหลือพี่น้องผู้สูงอายุ 4.9 ล้านคนตามระดับของอายุ อาจไม่มากนักในรายบุคคล เมื่อรวมแล้ว 4.9 ล้านคน รวมเป็นวงเงินประมาณ 8,300 ล้านบาท 

โดยผู้สูงอายุ 60 ปีขึ้นไปได้รับการช่วยเหลือเดือนละ 100-250 บาทต่อคนต่อเดือน ภายในเดือน ก.ค.นี้ จะเริ่มจ่ายผู้สูงอายุครั้งแรกเป็นเวลา 4 เดือน โดยจ่ายทุกเดือนจนถึงเดือน ก.ย. แม้ว่าจะไม่มากนัก แต่เชื่อว่าจะมีส่วนช่วยผู้สูงอายุได้ไม่มากก็น้อย โดยในยามนี้เราทุกคนต้องหาทางช่วยกัน รัฐบาลก็ทำเท่าที่เราทำได้ ซึ่งไม่มีผลต่องบประมาณโดยรวมมากนัก

นอกจากนี้ที่ประชุม ครม.ยังได้อนุมัติหลักการร่างกฎกระทรวงยกเว้นค่าธรรมเนียมสำหรับการประกอบการธุรกิจโรงแรมให้แก่ผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรมที่ได้รับผลกระทบจากโควิด-19 โดยยกเว้นค่าธรรมเนียมปีละ 40 บาทต่อห้องพักตั้งแต่ปี 63 เพื่อลดภาระค่าใช้จ่ายผู้ประกอบการธุรกิจโรงแรม ได้มากถึง 47 ล้านบาท ครม.จึงได้อนุมัติร่างกฎกระทรวงนี้ขึ้นเพื่อขยายเวลาไปจนถึง มิ.ย.67 เพื่อสนับสนุนอุตสาหกรรมโรงแรม การท่องเที่ยว การฟื้นฟูธุรกิจในช่วงเวลาเปิดประเทศนี้ ซึ่งจะเป็นผลดีต่อเศรษฐกิจประเทศในภาพรวมด้วย เพราะเป็นรายได้หลักของประเทศ ตอนนี้ทุกคนทราบดีจำนวนนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้น รายได้จากสถานประกอบการ ลูกจ้างพนักงานก็ได้ประโยชน์ตรงนี้ไปด้วย

พล.อ.ประยุทธ์ กล่าวว่า ที่ผ่านมารัฐบาลรับฟังทุกปัญหาของประชาชนที่เกิดขึ้น บางอย่างต้องแก้ไขเร่งด่วน แต่บางอย่างอยู่ในกระบวนการ บางอย่างต้องดูเรื่องกฎหมายต่างๆ เพราะเราทำหลายๆอย่าง ถ้าคิดจะทำถ้ากฎหมายไม่พร้อมมันก็คือปัญหาทำไม่ได้ ก็ต้องไปปรับกฎหมายซึ่งอาจจะช้าไปบ้าง ซึ่งก็มีบางโครงการก็ได้อนุมัติไปแล้ว แก้ไขไปแล้ว และมีประชาชนได้รับประโยชน์จำนวนมาก บางโครงการก็มีแนวทางแล้ว และจะเริ่มดำเนินการต่อไปในเร็วๆนี้ฉะนั้นเราต้องประเมินสถานการณ์ไปด้วยกันว่า วันนี้เจอปัญหาแบบนี้ ถ้าวันหน้าเจอปัญหาหนักกว่านี้จะทำอย่างไร ไม่ว่าจะเป็นเรื่องพลังงาน หรือเรื่องอะไรก็ตาม 

ทั้งนี้ เชื่อว่าวันนี้รัฐบาลบริหารประเทศได้ดีพอสมควร พลังงานเรายังไม่ขาดแคลน ยังมีใช้อยู่แต่ราคาสูงขึ้น ทั้งนี้ด้วยเหตุผลหลายประการ ฉะนั้นเราคงต้องเตรียมความพร้อมเหล่านี้ไปอย่างต่อเนื่องตั้งแต่โควิด-19 มาจนถึงพลังงาน ซึ่งวันนี้รัฐบาลยังสามารถบริหารงบประมาณประเทศให้อยู่ในสถานะที่มั่นคง มีเสถียรภาพ สิ่งสำคัญที่สุดทำอย่างไรจะไม่ขาดแคลนพลังงาน อาหาร เราเป็นประเทศเกษตรกรรมอยู่แล้ว เรื่องอาหารคงไม่มีปัญหา แต่ทำอย่างไรจะทำให้สามารถส่งสินค้าไปต่างประเทศให้ได้มากขึ้น และทำผลิตผลทางการเกษตรให้ได้มาตรฐานมากยิ่งขึ้น การรับรองคุณภาพ การตรวจสอบ การขึ้นทะเบียน จะทำให้สินค้าการเกษตรเรามีมูลค่าสูงขึ้นในอนาคตได้

“ผมพยายามทำทุกวิถีทางเพื่อให้ทุกอย่างเดินหน้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งรัฐบาลปัจจุบันมุ่งหวังอย่างเดียวคือ ทำอย่างไรจะคลี่คลายความโศกเศร้า ความทุกข์ต่างๆ ของพี่น้องประชาชนให้ได้มากที่สุด ก็ขอความร่วมมือเท่านั้นเอง และขอความเข้าใจด้วย” พล.อ.ประยุทธ์ กล่าว