ดัชนีดาวโจนส์ขึ้นต่อ หลังดัชนีราคาใช้จ่ายบริโภคส่วนบุคคลต่ำ

ตลาดหุ้นสหรัฐปรับตัวขึ้นในวันนี้ ก่อนที่จะปิดทำการในวันจันทร์ที่ 25 ธ.ค.เนื่องในวันคริสต์มาส ได้แรงหนุนจากการเงินเฟ้อที่ชะลอตัวลงต่อเนื่อง

  • ดัชนี PCE เดือน พ.ย. ปรับตัวขึ้น 2.6% ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์
  • นักลงทุนคาด ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า
  • มีแรงซื้อเข้ามาหนุนดัชนีตลาดหลักทรัพย์สหรัฐฯขึ้นต่อ รอลุ้นสัปดาห์สุดท้ายของปี

เมื่อเวลาประมาณ 22.20 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 37,487.21 จุด เพิ่มขึ้น
 82.86 จุด หรือ 0.22%  ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,767.20 จุด เพิ่มขึ้น  20.45 จุดหรือ 0.43%  ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 15,035.83 จุด เพิ่มขึ้น 71.96 จุด หรือ 0.48% 

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคลทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.8% จากระดับ 2.9% ในเดือนต.ค. เทียบรายเดือน ดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวลง 0.1% ในเดือนพ.ย. ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าทรงตัว หรือปรับตัวขึ้น 0.0% จากระดับ 0.0% ในเดือนต.ค.

ดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน และเป็นมาตรวัดเงินเฟ้อที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ให้ความสำคัญ ปรับตัวขึ้น 3.2% ในเดือนพ.ย. เมื่อเทียบรายปี ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 3.3% จากระดับ 3.4% ในเดือนต.ค.เทียบรายเดือน ดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.1% ในเดือนพ.ย. ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 0.2% จากระดับ 0.1% ในเดือนต.ค.

นักลงทุนเพิ่มคาดการณ์ที่ว่า เฟดจะเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค.2567 หลังสหรัฐเปิดเผยดัชนี PCE ที่ต่ำกว่าคาดในวันนี้ ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 74.2% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 19-20 มี.ค.2567 หลังจากที่ก่อนหน้านี้ให้น้ำหนักเพียง 62.7%

นอกจากนี้ นักลงทุนคาดว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยจำนวน 6 ครั้งในปี 2567 โดยปรับลดครั้งละ 0.25% รวม 1.50% มากกว่าที่เฟดส่งสัญญาณปรับลดอัตราดอกเบี้ย 3 ครั้ง ครั้งละ 0.25% รวม 0.75%