“ดีอีเอส” ชูศักยภาพเศรษฐกิจดิจิทัลเสริมแกร่ง SME ใช้ประโยชน์ดิจิทัลขับเคลื่อนประเทศ

  • นำนวัตกรรมและดิจิทัลมาใช้สร้างรายได้
  • สร้างความเข้มแข็งให้กับธุรกิจ
  • ใช้ประโยชน์จากเทคโนโลยีดิจิทัลสู่การพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศ

ศาสตราจารย์พิเศษวิศิษฏ์ วิศิษฏ์สรอรรถ ปลัดกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กล่าวในการเป็นประธานเปิดงาน“Thailand 4.0 ประเทศไทยไปไกลกว่าที่คิด” เศรษฐกิจดิจิทัล หรือ Digital Economy เป็นเศรษฐกิจรูปแบบใหม่ที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทย โดยถือเป็นแก่นหลักในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของประเทศไทยในอีก 10 – 20 ปี ข้างหน้า นอกจากนี้ เศรษฐกิจดิจิทัลของไทยมีการเติบโตขึ้นจากปีก่อน ๆ มากขึ้นอันเป็นผลจากการแพร่ระบาดของ COVID-19 ที่ผลักดันให้กิจกรรมทางเศรษฐกิจและสังคมเปลี่ยนแปลงไป     เกิดการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลแบบก้าวกระโดดในชั่วพริบตา และดิจิทัลได้แทรกซึมเข้าไปในชีวิตประจำวันของประชาชนตั้งแต่การใช้งาน Social Media การซื้อขายสินค้า เล่นเกม ดูหนัง สั่งอาหาร ท่องเที่ยว หรือแม้แต่การศึกษา โดยกลุ่มธุรกิจหรืออุตสาหกรรมที่ได้รับประโยชน์จึงหนีไม่พ้นกลุ่มเทคโนโลยีที่เกี่ยวข้องกับดิจิทัลหรือออนไลน์ อาทิ การบริการทางการเงินดิจิทัล (FinTech) ไปจนถึงการประยุกต์ใช้เทคโนโลยีดิจิทัลในด้านสุขภาพ (HeathTech) และด้านการศึกษา (EdTech) ด้วยเหตุนี้ กระทรวงดีอีเอส จึงมีนโยบายด้านดิจิทัลที่ชัดเจนในการส่งเสริมการพัฒนาและการใช้นวัตกรรมเทคโนโลยีดิจิทัล เพื่อให้ประเทศหลุดพ้นจากกับดักการพัฒนาทั้งในเชิงเศรษฐกิจและสังคม

อีกทั้งยังมีพระราชบัญญัติการพัฒนาดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม พ.ศ. 2560 ที่ชี้ประเด็นสำคัญในการส่งเสริมไปสู่เป้าหมาย ทั้งในเรื่องของการส่งเสริมอุตสาหกรรม นวัตกรรม การลงทุน ไปจนถึงการนำไปใช้ประโยชน์ในเชิงเศรษฐกิจและสังคม และการพัฒนากำลังคนดิจิทัลของประเทศอีกด้วย ซึ่งกิจกรรม“Thailand 4.0 ประเทศไทยไปไกลกว่าที่คิด” ที่จัดขึ้นในครั้งนี้ จึงเป็นส่วนหนึ่งในการขับเคลื่อนการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างเป็นรูปธรรม เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นประเทศไทย 4.0 อย่างมีศักยภาพ 

ด้านนายภุชพงค์ โนดไธสง เลขาธิการคณะกรรมการดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ   กล่าวเพิ่มเติมว่า งานสัมมนาและนิทรรศการเศรษฐกิจดิจิทัลในครั้งนี้ จัดขึ้นเพื่อแสดงให้เห็นว่าประเทศไทยมีความก้าวหน้าไม่แพ้ชาติใดในโลกในด้านการส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ที่ไม่เพียงส่งผลกระทบในเชิงบวกต่อเศรษฐกิจในภาพรวมของประเทศเท่านั้น แต่ยังทำให้เกิดพฤติกรรมการใช้ประโยชน์เทคโนโลยีดิจิทัลในการขับเคลื่อนสังคมอีกด้วย ซึ่งการจัดงานในครั้งนี้ นอกจากจะได้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงแบบก้าวกระโดดของเทคโนโลยีดิจิทัล ยังได้แนวคิดการปรับตัวให้เท่าทันเทคโนโลยีและสามารถใช้เทคโนโลยีให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยเฉพาะอย่างยิ่งในภาคธุรกิจ ซึ่งถือเป็นหนึ่งในผู้ขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมของประเทศ ตอบโจทย์วิสัยทัศน์เชิงนโยบาย Thailand 4.0 ที่มุ่งเน้นการเปลี่ยนเศรษฐกิจแบบเดิมไปสู่ “เศรษฐกิจที่ขับเคลื่อนด้วยนวัตกรรม” 

กิจกรรมที่น่าสนใจภายในงาน ประกอบด้วย  การให้ความรู้ด้านภัยคุกคามทางไซเบอร์โลกปัจจุบันและอนาคตจากผู้ที่มีความเชี่ยวชาญ รวมถึงการให้ความสำคัญกับเทรนด์เทคโนโลยีโลกที่ก้าวล้ำและสามารถพลิกผันกิจกรรมต่าง ๆ ในด้านเศรษฐกิจและสังคมอย่างมีนัยสำคัญ ไม่ว่าจะในด้านการใช้ประโยชน์จากข้อมูล อาชีพแห่งอนาคต หรือโลกอนาคตอย่าง Metaverse และที่ขาดไม่ได้เลยสำหรับเทรนด์ที่กำลังมาแรงคือ ‘เกม’ ซึ่งถือเป็นธุรกิจดิจิทัลที่เติบโตอย่างก้าวกระโดดในหมู่คนรุ่นใหม่ และขยับขยายกลายเป็นธุรกิจอีสปอร์ต (e-Sport) ขึ้น ซึ่งได้สร้างชื่อเสียงและมูลค่ามหาศาลให้แก่ประเทศจำนวนไม่น้อย ซึ่งปัจจุบัน ตลาดอีสปอร์ต (e-Sport) ที่ใหญ่ที่สุดของโลกได้แก่ จีน รองลงมา คือ สหรัฐอเมริกา ในขณะที่ประเทศไทยนั้นอยู่ในอันดับที่ 20 ของโลก ซึ่งถือว่าเป็นอันดับที่มีศักยภาพ โดยในวันนี้ เพื่อเป็นการส่งเสริมธุรกิจดิจิทัลยุคใหม่ นอกจากจะได้เปิดโลกทัศน์เกี่ยวกับกีฬา e-Sport จากนายกสมาคมกีฬาอีสปอร์ตแห่งประเทศไทยแล้ว ยังเอาใจเหล่าเกมส์เมอร์ให้ชวนติดตามการแข่งขัน ROV Thailand 4.0: The Future and Beyond จากน้องๆ นักกีฬา e-Sport ที่มากไปด้วยความสามารถ ทั้ง 32 ทีมอีกด้วย และเชื่อมั่นว่าการจัดงานในครั้งนี้จะเป็นครั้งสำคัญที่เชื่อมโยงภาคธุรกิจ SMEs องค์กร ภาคการศึกษาให้สามารถมีความรู้ความเข้าใจในการใช้ประโยชน์จากดิจิทัลเพื่อการพัฒนาเศรษฐกิจของประเทศอย่างยั่งยืนในอนาคต