- ชี้การออกมาพูดของนายธนาธร พบความผิดถึง 11 ช่วงตอน ทำให้สังคมเข้าใจสถาบันไปในทางที่ผิด
- ทำให้เกิดความสับสน ประชาชนได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง
- ลั่น “บิ๊กตู่” กำชับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง ป้องกันการจาบจ้วงละเมิดสถาบัน
- งานนี้บอกเลย เอาผิดไม่เว้นคนแชร์ต่อ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (20 ม.ค.2564) นายพุทธิพงษ์ ปุณณกันต์ รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) ได้มอบหมายให้นายเนวินธุ์ ช่อชัยทิพฐ์ ผู้ช่วย รมว.ดิจิทัลฯ ร่วมกับ นายทศพล เพ็งส้ม ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี และ นายสุภรณ์ อัตถาวงศ์ ผู้ช่วยรัฐมนตรีประจำนายกรัฐมนตรี เข้ายื่นแจ้งความเอาผิด นายธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ ประธานคณะก้าวหน้า ภายหลังนายธนาธร ทำการไลฟ์สด ผ่านทางเพจคณะก้าวหน้า และสำนักงานข่าวBBC thai ได้ร่วมกันโฆษณาแนะนำข้อมูลเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ โดยจงใจโจมตีวัคซีนพระราชทาน เพื่อหวังผลทางการเมือง
ทั้งนี้การกล่าวหาดังกล่าวถือเป็นการกระทำความผิดฐาน หมิ่นประมาท ดูหมิ่น หรือแสดงความอาฆาตมาดร้ายพระมหากษัตริย์ พระราชินี รัชทางยาท หรือผู้สำเสร็จราชการแทนพระองค์ ตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 112 และกระทำการนำเข้าสู่ระบบคอมพิวเตอร์ซึ่งข้อมูลคอมพิวเตอร์ที่บิดเบือนหรือปลอมไม่ว่าทั้งหมดหรือบางส่วน หรือข้อมูลคอมพิวเตอร์อันเป็นเท็จ โดยประการที่น่าจะเกิดความเสียหายแก่ประชาชน ตาม พ.ร.บ.ว่าด้วยการกระทำความผิดเกี่ยวกับคอมพิวเตอร์ มาตรา 14 อนุ 1
นายทศพล ระบุว่า การออกมาพูดของนายธนาธร พบความผิดถึง 11 ช่วงตอน ทำให้สังคมเข้าใจสถาบันไปในทางที่ผิด และทำให้เกิดความสับสน ประชาชนได้รับข้อมูลที่ไม่ถูกต้อง สร้างความเสียหายที่ไม่อาจยอมได้ รวมถึงสร้างความไม่มั่นใจในการทำงานของรัฐบาล ทั้งกับนายกรัฐมนตรีกระทรวงสาธารณสุข เรื่องวัคซีนป้องกัน โควิด-19 จึงต้องดำเนินการทางกฎหมายทันที และหลังจากนี้จะติดตามตรวจสอบ เอาผิดผู้ที่เกี่ยวข้องทั้งหมด ที่ได้โพสต์ข้อความในลักษณะเดียวกันเผยแพร่ทางออนไลน์ทุกคน
พร้อมกันนี้นายสุภรณ์ กล่าวด้วยว่า นายกรัฐมนตรีได้กำชับให้บังคับใช้กฎหมายอย่างจริงจัง เพื่อไม่ให้เกิดการจาบจ้วงละเมิดสถาบัน และนำประเด็นดังกล่าวมาโจมตีการทำงานของรัฐบาลเพื่อหวังผลทางการเมือง
ขณะเดียวกันนายเนวินธุ์ กล่าวว่า นายพุทธิพงษ์ ยังได้กำชับให้เจ้าหน้าที่ติดตามตรวจสอบการโพสต์ข้อความ ที่ละเมิดสถาบัน โดยเฉพาะกรณีวัคซีนพระราชทานอย่างจริงจัง หากใครที่โพสต์ข้อมูลที่เป็นเท็จ หรือข่าวปลอมก็จะดำเนินการทางกฎหมายทุกคนด้วย โดยมี พ.ต.อ.ทองศูนย์ อุ่นวงค์ รองผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเทคโนโลยี (ปอท.) ในฐานะเจ้าของคดีมารับหนังสือ เพื่อดำเนินการตรวจสอบตามกฎหมายต่อไปอีกด้วย
