ดาวโจนส์ปิดพุ่งแรง 378 จุด ตลาดขานรับการอนุมัติใช้พลาสมารักษา โควิด-19

.ทรัมป์ ยันเป็นวิธีที่มึประสิทธิภาพมาก ลดการตาย35%
.หุ้นกลุ่มได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจพาเหรดเพิ่มขึ้น ดันดาวโจนส์ปิดเหนือ 28,00 จุด
.แรงซื้อกลุ่มเทคโนโลยียังไม่ตก ส่งเอสแอนด์พี และแนสแด็ก ทำนิวไฮ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 24 ส.ค.ที่ระดับ 28,308.46 จุด เพิ่มขึ้น 378.13 จุด หรือ +1.35% ดัชนีเอสแอนด์พั 500 ปิดที่ 3,431.28 จุด เพิ่มขึ้น 34.12 จุด หรือ +1.00% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซืส ปิดที่ 11,379.72 จุด เพิ่มขึ้น 67.92 จุด หรือ +0.60%

ดัชนีดาวโจนส์ ปิดตลาดยืนเหนือ 28,000 จุดเป็นครั้งแรกในรอบ 6 เดือนขณะที่เอสแอนด์พี และแนสแด็ก ปิดทำนิวไฮอีกครั้ง ตลาดหุ้นสหรัฐพุ่งขึ้นต่อเนื่อง หลังจากประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์แถลงว่า FDA ได้อนุมัติให้ใช้พลาสมาที่มีโปรตีนภูมิคุ้มกัน ในการรักษาผู้ป่วยโรคโควิด-19 โดยพลาสมาเหล่านี้ได้รับการบริจาคจากผู้ที่เคยป่วยด้วยโรคโควิด-19 แต่ได้รับการรักษาจนหายดี

“นี่เป็นวิธีการรักษาที่มีประสิทธิภาพมาก เราจะกระจายพลาสมาเหล่านี้ออกไปเพื่อให้ชาวอเมริกันที่ป่วยด้วยโรคโควิด-19 สามารถเข้าถึงการรักษานี้ได้มากขึ้น ซึ่งการรักษาวิธีนี้สามารถลดอัตราการเสียชีวิตจากโรคโควิด-19 ได้ถึง 35%”

ทั้งรี้ FDA ระบุว่า การรับรองให้ใช้พลาสมาที่มีโปรตีนภูมิคุ้มกันในการรักษาโรคโควิด-19 นั้น พิจารณาจากหลักฐานที่ได้จากผลการทดลองใช้พลาสมาดังกล่าวในช่วงแรกที่ไวรัสเริ่มแพร่ระบาด, หลักฐานการทดลองทางคลินิกที่ทำหลายครั้งจนมั่นใจ

ข่าวดังกล่าวช่วยหนุนหุ้นกลุ่มที่เป็นความหวังว่าจะได้รับประโยชน์จากการฟื้นตัวทางเศรษฐกิจ ซึ่งรวมถึงหุ้นกลุ่มสายการบิน และกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวเพิ่มขึ้นแรง โดยหุ้นอเมริกัน แอร์ไลน์ ทะยานขึ้น 10.53% หุ้นยูไนเต็ด แอร์ไลน์ พุ่งขึ้น 9.93% หุ้นเดลต้า แอร์ไลน พุ่งขึ้น 9.28% ส่วนหุ้นในกลุ่มอุตสาหกรรมนั้น หุ้นโบอิ้ง พุ่งขึ้น 6.43% หุ้นแคทเธอร์พิลลาร์ พุ่งขึ้น 2.35% หุ้น 3M บวก 1.13%

ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยียังแรงไม่ตกเช่นกัน พุ่งขึ้นต่อเนื่อง โดยหุ้นเฟซบุ๊ก พุ่งขึ้น 1.64% หุ้นแอปเปิล ดีดขึ้น 1.2% หุ้นไมโครซอฟท์ บวก 0.31% หุ้นอัลฟาเบท บวก 0.61% หุ้นแอมะซอนดอทคอม บวก 0.69%

หุ้นกลุ่มพลังงานพุ่งขึ้นตามทิศทางราคาน้ำมันดิบ โดยหุ้นเอ็กซอน โมบิล พุ่งขึ้น 2.9% หุ้นเชฟรอน ดีดขึ้น 2.49% หุ้นฮัลลิเบอร์ตัน ทะยานขึ้น 3.49% หุ้นอ็อคซิเดนเชียล ปิโตรเลียม พุ่งขึ้น 3.50%

หุ้น Zoom Video Communications ซึ่งเป็นผู้ให้บริการวิดีโอคอนเฟอเรนซ์ ร่วงลง 2.6% หลังจากที่เกิดปัญหาขัดข้องชั่วคราวจนทำให้ผู้ใช้บริการจำนวนมากในสหรัฐไม่สามารถเข้าสู่ระบบได้ แต่ในเวลาต่อมาว่าสามารถกลับมาให้บริการแก่ผู้ใช้ส่วนใหญ่ในสหรัฐได้แล้ว