ดาวโจนส์ปิดบวก 69 จุด ติดตามสถานการณ์เศรษฐกิจใกล้ชิด

  • มีแรงซื้อกลับเข้ามาในหุ้นแทบทุกกลุ่ม หลังราคาดิ่งแรงในช่วงก่อนหน้า
  • นักลงทุนยังกังวลการฟื้นตัวเศรษฐกิจ หลังเฟดมุ่งมั่นขึ้นดอกเบี้ยต่อในการประชุมเดือนนี้
  • ตลาดจับตาตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐศุกร์นี้

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 6 ก ค.พลิกกลับมาเป็นบวก หลังลดลงในช่วงแรก โดยปิดที่ 31,037.68 จุด เพิ่มขึ้น 69.86 จุด หรือ +0.23%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 3,845.08 จุด เพิ่มขึ้น 13.69 จุด หรือ +0.36% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 11,361.85 จุด เพิ่มขึ้น 39.61 จุด หรือ +0.35%

นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้นหลังราคาหุ้นหลายกลุ่มลดลงไปมากกว่าพื้นฐาน โดยมีแรงซื้อกลับมาในหุ้นแทบทุกกลุ่ม ขณะที่หุ้นพลังงานลดลงตามราคาน้ำมันดิบโลกที่ลดลงแรง

ดัชนีหุ้นกลุ่มสาธารณูปโภคพุ่งขึ้นกว่า 1% โดยหุ้นดุ๊ค เอนเนอร์จี ดีดขึ้น 1.17% หุ้นเอ็กเซลอน คอร์ปอเรชั่น พุ่งขึ้น 1.47% หุ้นพอร์ทแลนด์ เจเนอรัล อิเล็กทริก พุ่งขึ้น 2.28%

หุ้นกลุ่มเทคโนโลยีดีดตัวขึ้น 0.88% โดยหุ้นซิสโก ซิสเต็มส์ พุ่งขึ้น 1.74% หุ้นอะโดบี พุ่งขึ้น 1.68% หุ้นอัลฟาเบท ปรับตัวขึ้น 1.16% หุ้นไมโครซอฟท์ พุ่งขึ้น 1.28%

นักลงทุนยังเข้าซื้อหุ้น Defensive Stocks หรือหุ้นที่ปลอดภัยและสามารถต้านทานวัฎจักรทางเศรษฐกิจได้ดี เช่นหุ้นกลุ่มเฮลธ์แคร์ โดยหุ้นเมอร์ค แอนด์ โค บวก 0.53% หุ้นยูไนเต็ดเฮลธ์ พุ่งขึ้น 2.1% หุ้นบริสตอล-ไมเยอร์ส สควิบบ์ บวก 0.34%

อย่างไรก็ดี หุ้นกลุ่มพลังงานร่วงลง หลังจากราคาน้ำมัน WTI ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 12 สัปดาห์ โดยหุ้นไดมอนแบค เอนเนอร์จี ดิ่งลง 3.38% หุ้นเอ็กซอน โมบิล ร่วงลง 1.82% หุ้นเชฟรอน ปรับตัวลง 1.31%

ด้านภาพรวมเศรษฐกิจ คณะกรรมการเฟดเปิดเผยรายงานการประชุมเฟดประจำวันที่ 14-15 มิ.ย.เมื่อวานนี้ โดยใจความตอนหนึ่งระบุว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้เครื่องมือในการควบคุมเงินเฟ้อ โดยกรรมการเฟดส่วนใหญ่มีความเห็นตรงกันว่า การเดินหน้าปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อถือเป็นเรื่องที่เหมาะสม โดยมีแนวโน้มว่าเฟดอาจจะปรับขึ้นดอกเบี้ยอีก 0.50% หรือ 0.75% ในการประชุมเดือนก.ค.

ซาคารี กริฟฟิธส์ นักวิเคราะห์จากธนาคารเวลส์ ฟาร์โกกล่าวว่า เฟดมีความมุ่งมั่นที่จะใช้นโยบายคุมเข้มทางการเงินต่อไปหากเงินเฟ้อยังคงพุ่งขึ้นอย่างรวดเร็ว แม้ว่าการดำเนินการดังกล่าวอาจจะทำให้เศรษฐกิจถดถอยลงเล็กน้อยก็ตาม ซึ่งอาจจะเป็นผลดีกับเศรษฐกิจในระยะยาว

ขณะเดียวกัน ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve อีกครั้งเมื่อคืนนี้ โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรระยะสั้นดีดตัวเหนือพันธบัตรระยะยาว ซึ่งเป็นการบ่งชี้ถึงแนวโน้มการเกิดภาวะเศรษฐกิจถดถอย

นักลงทุนจับตาการเปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรของสหรัฐในวันศุกร์นี้