ดาวโจนส์ปรับตัวลดลงกว่า 100 จุด หลังพบข่าวร้ายระงับทดลองวัคซีน ต้านโควิด


.จอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ระงับทดลองวัคซีนต้านโควิด หลังผู้รับวัคซีนป่วยไม่ทราบสาเหตุ
.นักลงทุนบางส่วนยังซื้อหุ้นกลุ่มเทคโนโลยี รับข่าวดีรายตัว
.ไอเอ็มเอฟปรับขึ้นประมาณการเศรษฐกิจสหรัฐ-โลกปี 63

เมื่อเวลา 21.15 น.ตามเวลาประเทศไทย ตลาดหุ้นสหรัฐเคลื่อนไหวในแดนลบ ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ 28,722.15 จุด ลดลง 115.37 จุด หรือ -0.40% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 11,846.73 จุด ลดลง 29.53 จุด หรือ -0.25% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 3,520.32 จุด ลดลง 13.90 จุด หรือ -0.39%

ตลาดหุ้นสหรัฐฯอยู่ในแดนลบ หลังจากบริษัทจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ประกาศระงับการทดลองวัคซีนต้านไวรัสโควิด-19 หลังพบผู้เข้าร่วมโครงการทดลองรายหนึ่งล้มป่วยโดยไม่ทราบสาเหตุ ทั้งนี้ Worldometer ซึ่งเป็นเว็บไซต์รายงานข้อมูลล่าสุดที่มีการรวบรวมจากหน่วยงานด้านสาธารณสุขทั่วโลก ระบุว่า สหรัฐมีผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 จำนวน 8,038,037 ราย และมีผู้เสียชีวิต 220,018 ราย

อย่างไรก็ตาม ยังมีแรงซื้อหุ้ในนกลุ่มเทคโนโลยีน โดยราคาหุ้นแอปเปิลพุ่งขึ้นในช่วงแรกของการเปิดตลาด ขานรับการจัดอีเวนต์ในวันนี้ เวลา 10.00 น.ตามเวลาสหรัฐ หรือเวลาเที่ยงคืนตามเวลาไทย โดยคาดว่าแอปเปิลจะเปิดตัว iPhone 12 จำนวน 4 รุ่น ซึ่งได้แก่ iPhone 12 Mini ซึ่งมีหน้าจอ 5.4″, iPhone 12 ซึ่งมีหน้าจอ 6.1″, iPhone 12 Pro มีหน้าจอ 6.1″ และ iPhone 12 Pro Max หน้าจอ 6.7″

เช่นกันกับราคาหุ้นแอมะซอน ซึ่งเป็นยักษ์ใหญ่อี-คอมเมิร์ซของสหรัฐ พุ่งขึ้นในช่วงแรกเช่นกัน รับข่าวการจัดงาน Prime Day วันช็อปปิ้งระดับโลกที่แอมะซอนจัดขึ้น โดยมีการลดราคาสินค้าอย่างมากสำหรับสมาชิก Prime จำนวนนับล้านรายการเพื่อกระตุ้นยอดขายประจำปีในวันที่ 13-14 ต.ค. หลังจากนั้นมีแรงขายหุ้นทั้งสองตัวออกมาเนื่องจากนักลงทุนกังวลสถานการณ์โควิด-19

กองทุนการเงินระหว่างประเทศ (IMF) จัดการประชุมประจำปีร่วมกับธนาคารโลกผ่านทางระบบออนไลน์ในวันนี้ พร้อมกับการเปิดเผยรายงานแนวโน้มเศรษฐกิจโลก (WEO) โดยคาดการณ์ว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.4% ในปีนี้ ซึ่งดีกว่าตัวเลขคาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ที่ระบุว่าเศรษฐกิจโลกจะหดตัวลง 4.9%

อย่างไรก็ดี IMF ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจโลกในปีหน้าสู่ระดับ 5.2% ซึ่งต่ำกว่าที่คาดการณ์ในเดือนมิ.ย.ว่าจะขยายตัว 5.4% ทั้งนี้ การทบทวนปรับเพิ่มประมาณการเศรษฐกิจโลกในปีนี้ ได้รับแรงหนุนจากการขยายตัวที่ดีกว่าคาดของเศรษฐกิจจีน รวมทั้งเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศที่พัฒนาแล้วในช่วงไตรมาส 2 ขณะที่มีสัญญาณการฟื้นตัวที่รวดเร็วขึ้นในไตรมาส 3 แต่เตือนว่าการฟื้นตัวของเศรษฐกิจโลกยังคงเผชิญกับความไม่แน่นอน และไม่ต่อเนื่อง รวมทั้งต้องใช้ระยะเวลายาวนาน ขณะที่ยังคงได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ทั้งนี้ IMF คาดการณ์ว่า เศรษฐกิจสหรัฐจะหดตัวลง 4.3% ในปีนี้ จากเดิมที่คาดว่าจะหดตัวลง 8.0% ก่อนที่จะมีการขยายตัว 3.1% ในปีหน้า