.นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น คลายกังวลดอกเบี้ย หลังเฟดส่งสัญญาณยังไม่เร่งขึ้น
.กระทรวงพาณิชย์สหรัฐคาดจีดีพีไตรมาส 2/2564 โต 6.5%
.ตลาดมองแนวโน้มเศรษฐกิจสหรัฐยังฟื้นต่อเนื่อง แม้ตัวเลขออกมาต่ำกว่าคาด
เมื่อเวลา 22.05 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 35,125.19 จุด เพิ่มขึ้น 194.26 จุด หรือ +0.55% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 14,827.11 จุด เพิ่มขึ้น 64.52 จุด หรือ +0.44% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 อยู่ที่ระดับ 4,427.75 จุด เพิ่มขึ้น 27.11 จุด หรือ +0.62%
นักลงทุนกลับมาซื้อหุ้น หลังขายทำกำไรไปวานนี้ โดยคลายกังวลการเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ย หลังนายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ส่งสัญญาณว่าเฟดจะยังไม่เร่งขึ้นอัตราดอกเบี้ย ขณะที่เฟดยังคงจับตาตลาดแรงงานสหรัฐ แต่ตลาดมองว่า เฟดอาจส่งสัญญาณที่ชัดเจนมากขึ้นเกี่ยวกับทิศทางอัตราดอกเบี้ย รวมทั้งแนวโน้มการปรับลดวงเงิน QE ในการประชุมประจำปีของเฟดที่เมืองแจ็กสัน โฮล รัฐไวโอมิง ในวันที่ 26-28 ส.ค.
นักวิเคราะห์คาดการณ์ไทม์ไลน์ของเฟดว่า เฟดจะเริ่มปรับลด QE ในเดือนม.ค.2565 โดยจะปรับลดวงเงิน QE เดือนละ 20,000 ล้านดอลลาร์ จากปัจจุบันที่เฟดทำ QE วงเงิน 120,000 ล้านดอลลาร์/เดือน ซึ่งจะทำให้เฟดใช้เวลา 6 เดือนในการปรับลด QE จนเหลือ 0 หมายความว่าเฟดจะยุติการทำ QE โดยสิ้นเชิงในช่วงกลางปี 2565 และเฟดจะพักการดำเนินการเป็นเวลา 1 ปีเพื่อให้ตลาดปรับตัว ก่อนที่จะทำการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในช่วงครึ่งหลังของปี 2566
ด้านแนวโน้มเศรษฐกิจยังฟื้นตัวต่อเนื่อง แม้ว่าจะต่ำกว่าคาดการณ์ โดยกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 2/2564 โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 6.5% ในไตรมาส 2 หลังจากที่ขยายตัว 6.4% ในไตรมาส 1 ก่อนหน้านี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐมีการขยายตัว 8.5% ในไตรมาส 2 ซึ่งจะเป็นการขยายตัวมากที่สุดนับตั้งแต่ปี 2526
ขณะเดียวกัน นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะมีการขยายตัว 7.0% ในปีนี้ ซึ่งจะเป็นการขยายตัวสูงสุดนับตั้งแต่ปี 2527 หลังจากหดตัว 3.4% ในปีที่แล้ว ซึ่งเป็นการหดตัวรุนแรงที่สุดนับตั้งแต่ปี 2489
ขณะที่กระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลงสู่ระดับ 400,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว จากระดับ 424,000 รายในสัปดาห์ก่อนหน้านี้ อย่างไรก็ดี ตัวเลขดังกล่าวสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 380,000 ราย ขณะที่จำนวนชาวอเมริกันที่ยังคงขอรับสวัสดิการว่างงานต่อเนื่องเพิ่มขึ้น 7,000 ราย สู่ระดับ 3.27 ล้านราย
