ดาวโจนส์ดิ่งใกล้ 400 จุด กังวลโควิดรอบ 3 คืนชีพ-มาตรการกระตุ้น เศรษฐกิจล่าช้า

.ตลาดกังวลหลังผู้ติดเชื้อโควิดรายใหม่ต้อวันพุ่งสูงสุดกว่า8.3หมื่นคน
.นักลงทุนเทขายหุ้น หวั่นระบาดรอบ3กระทบเศรษฐกิจ
.มาตรการกระตุ้นรอบใหม่ไร้ความหวังหลังสองฝ่ายโยนความผิดไปมา

เมื่อเวลาประมาณ 20.25น ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวอยู่ที่ 27,938.18จุด ลดลง 397.39 จุดหรือ -1.40% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่11,507.02 จุด ลดลง 41.27 จุดหรือ-0.36% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 3,429.01 จุด ลดลง 36.38 จุดหรือ-1.05%

ตลาดหุ้นสหรัฐดิ่งเหว หลังนักลงทุนตื่นตระหนกกัยจำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 ที่พุ่งขึ้นในสหรัฐ ซึ่งอาจจะเป็นจุดเริ่มต้นของการระบาดใหญ่ครั้งที่3ในสหรัฐฯ

มหาวิทยาลัยจอห์น ฮอปกินส์ เปิดเผยว่า ในช่วง สสัปดาห์ที่ผ่านม่ สหรัฐพบผู้ติดเชื้อโควิด-19 รายใหม่วันละมากกกว่า 83,000 รายทั้งในวันศุกร์และวันเสาร์ โดยเฉพาะในวันศุกร์พบผู้ติดเชื้อรายใหม่สูงถึง 83,700 ราย ซึ่งเป็นสถิติสูงสุดเป็นประวัติการณ์ มากกว่าเมื่อกลางเดือนก.ค. ซึ่งขณะนั้นพบผู้ติดเชื้อรายใหม่ราว 77,300 ราย

ส่งผลให้จำนวนผู้ติดเชื้อไวรัสโควิด-19 รวมในสหรัฐพุ่งทะลุ 8.8 ล้านราย และเสียชีวิตมากกว่า 230,000 รายแล้ว

นอกจากนี้ จากการคำนวณของสำนักข่าว CNBC พบว่า ในช่วง 7 วันที่ผ่านมา สหรัฐมีผู้ป่วยโควิด-19 รายใหม่เฉลี่ย 68,767 รายต่อวัน ซึ่งเป็นจำนวนสูงสุดเป็นประวัติการณ์ และสูงกว่าช่วง 7 วันก่อนหน้านี้ถึง 22%

ตัวเลขดังกล่าวทำให้ผู้เชี่ยวชาญกังวลว่าสถานการณ์จะย่ำแย่ลงอีกในช่วงฤดูหนาว โดยนพ.สก็อตต์ ก็อตต์ลิเอ็บ อดีตประธานคณะกรรมการอาหารและยาสหรัฐ (FDA) กล่าวเตือนว่า สหรัฐจะเผชิญกับการแพร่ระบาดอย่างหนักของไวรัสโควิด-19 โดยเริ่มตั้งแต่สัปดาห์นี้

นอกจากนี้ นักลงทุนยังวิตกกังวลเกี่ยวกับความไม่แน่นอนเกี่ยวกับมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐ โดยนางแนนซี เพโลซี ประธานสภาผู้แทนราษฎรสหรัฐ กล่าวว่า ยังคงมีความเป็นไปได้ที่จะมีการออกมาตรการเยียวยาเศรษฐกิจจากผลกระทบของโควิด-19 ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีสหรัฐในวันที่ 3 พ.ย.นี้ แต่ขึ้นอยู่กับการดำเนินการของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ รวมถึงการเจรจากับวุฒิสมาชิกพรรครีพับลิกัน

อย่างไรก็ตาม ประธานาธิบดีทรัมป์และนายสตีเวน มนูชิน รมว.คลัง ตอบโต้ พรรคฝ่ายค้านและนางเพโลซีเองก็ต้องยอมประนีประนอมเพื่อให้มีการอนุมัติมาตรการดังกล่าว โดยทั้งสองฝ่ายยังคงมีความขัดแย้งที่สำคัญ ซึ่งได้แก่ การให้เงินช่วยเหลือต่อมลรัฐต่างๆ ที่ได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 รวมทั้งการแก้ไขปัญหาหนี้สินของภาคธุรกิจ

ทางด้านโกลด์แมน แซคส์คาดการณ์ว่า สภาคองเกรสสหรัฐจะไม่สามารถออกกฎหมายว่าด้วยมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจสหรัฐได้ก่อนการเลือกตั้งประธานาธิบดีในวันที่ 3 พ.ย.

“ในขณะนี้ทั้งสองฝ่ายยังคงมีความเห็นที่แตกต่างกันอย่างมาก และเวลาก็เหลือน้อยลง ทำให้คุณเพโลซีและคุณมนูชินคงไม่สามารถบรรลุข้อตกลงก่อนการเลือกตั้ง และต่อให้ทั้งสองคนบรรลุข้อตกลง ก็แทบเป็นไปไม่ได้ที่สภาคองเกรสจะอนุมัติมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก่อนการเลือกตั้ง” รายงานระบุ
%%%%%%%