ดาวโจนส์ดิ่งลงอีกกว่า 780 จุด กังวลตัวเลขเศรษฐกิจทรุด-ว่างงานพุ่ง

.ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 รายสูงกว่านักวิเคราะห์คาด
.ตลาดยังเศรษฐกิจโลกถดถอย จากการที่ธนาคารกลางหลายแห่งพากันขึ้นดอกเบี้ย
. นักลงทุนเทขายหุ้น หลังตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve อีกครั้ง

เมื่อเวลาประมาณ 21.45 น.ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์เคลื่อนไหวที่ระดับ 29,883.65 จุด ลดลง
784.88 จุด เพิ่มขึ้น -2.56% ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวที่ 3,665.50 จุด ลดลง 124.49 จุด หรือ -3.28% ขณะที่ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ระดับ 10,648.52 จุด ลดลง 450.63 จุด หรือ -4.06%

ตลาดยังได้รับผลกระทบจากการเปิดเผยตัวเลขคนว่างงานที่สูงเกินคาด และตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านที่ดิ่งลงในเดือนพ.ค. โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกลดลง 3,000 ราย สู่ระดับ 229,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว แต่สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ที่ระดับ 215,000 ราย

นอกจากนี้ ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานดังกล่าวอยู่สูงกว่าระดับ 215,000 ราย ซึ่งเป็นค่าเฉลี่ยต่อสัปดาห์ในช่วงก่อนเกิดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในสหรัฐ

ขณะที่กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยว่า ตัวเลขการเริ่มต้นสร้างบ้านดิ่งลง 14.4% ในเดือนพ.ค. สู่ระดับ 1.549 ล้านยูนิต ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย.2564 ขณะที่นักวิเคราะห์คาดว่าลดลงสู่ระดับ 1.68 ล้านยูนิต การเริ่มต้นสร้างบ้านได้รับผลกระทบจากการพุ่งขึ้นของราคาวัสดุก่อสร้าง และการขาดแคลนแรงงาน

ด้านธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) สาขาฟิลาเดลเฟีย เปิดเผยดัชนีภาคการผลิตในภูมิภาคมิด-แอตแลนติก ดิ่งลงสู่ระดับ -3.3 ในเดือนมิ.ย. ซึ่งเป็นการปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเดือนที่ 3 หลังจากแตะระดับ +2.6 ในเดือนพ.ค.

นอกจากนั้น ตลาดยังคงกังวลว่าเศรษฐกิจโลกจะเผชิญภาวะถดถอยจากการที่ธนาคารกลางหลายแห่งพากันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ

โดยธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยระยะสั้น 0.75% สู่ระดับ 1.50-1.75% ในการประชุมวานนี้ ซึ่งเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งใหญ่ที่สุดในรอบ 28 ปี หรือนับตั้งแต่ปี 2537

นักลงทุนยังกังวลอัตราดอกเบี้ยขาขึ้น โดยธนาคารกลางอังกฤษ (BoE) มีมติปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยนโยบาย 0.25% สู่ระดับ 1.25% ในการประชุมวันนี้ ซึ่งเป็นระดับสูงสุดในรอบ 13 ปี และเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเป็นครั้งที่ 5 ติดต่อกันนับตั้งแต่เดือนธ.ค.2564

ขณะที่ธนาคารกลางสวิตเซอร์แลนด์ปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 15 ปี ขณะที่ธนาคารกลางฮังการี บราซิล และไต้หวันปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเช่นกัน นอกจากนี้ ธนาคารกลางยุโรป (ECB) ส่งสัญญาณปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยในเดือนก.ค. ซึ่งจะเป็นการปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยครั้งแรกในรอบ 11 ปี

ตลาดพันธบัตรสหรัฐเกิดภาวะ inverted yield curve อีกครั้ง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีดีดตัวสูงกว่าอายุ 10 ปีและ 30 ปี หลังจากที่เฟดเร่งปรับขึ้นอัตราดอกเบี้ยเพื่อสกัดเงินเฟ้อ ซึ่งทำให้เกิดความกังวลเกี่ยวกับภาวะเศรษฐกิจถดถอย

ก่อนหน้านี้ เหตุการณ์อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ 5 ปีพุ่งขึ้นสูงกว่าพันธบัตรอายุ 30 ปีได้เกิดขึ้นในปี 2549 ก่อนที่จะเกิดวิกฤตการเงินทั่วโลกในเวลาเพียงไม่กี่ปีถัดมา ทั้งนี้ ในการประชุมวานนี้ เฟดได้ปรับลดตัวเลขคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจสหรัฐในปีนี้ สู่ระดับ 1.7% จากเดิมคาดการณ์ที่ระดับ 2.8% ในเดือนมี.ค.

ทางด้านกระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยก่อนหน้านี้ว่า เศรษฐกิจสหรัฐหดตัว 1.5% ในไตรมาส 1/65 ซึ่งเป็นการหดตัวครั้งแรกนับตั้งแต่ที่เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอยโดยได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโควิด-19 ในช่วงต้นปี 2563