ดัชนีดาวโจนส์ปิดบวก 157 จุด รอลุ้นผลการประชุมเฟดที่จะเริ่มคืนนี้

NEW YORK CITY - September 3: Charging Bull sculpture with people on September 3, 2015 in New York City. The sculpture is both a popular tourist destination, as well as "one of the most iconic images of New York".

.มีแรงซื้อหุ้นสะสมเข้ามาในตลาดหุ้นสหรัฐฯ แต่การซื้อขายยังคงระมัดระวังในช่วงแคบๆ

.นักลงทุนรอติดตามการประชุมคณะกรรมการนโยบายการเงิน (FOMC) ธนาคารกลางสหรัฐฯ

.ตลาดจับตาการประกาศเงินเฟ้อ คาดเงินเฟ้อเริ่มชะลอและเฟดเริ่มกระบวนการยุติวงจรดอกเบี้ยขาขึ้น

นักลงทุนซื้อหุ้นสะสม รอลุ้นผลการประชุมนโยบายการเงินของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ในสัปดาห์นี้ โดยมองว่า เฟดน่าจะเริ่มกระบวนการยุติการปรับขึ้นดอกเบี้ย โดยตลาดจับตาการเปิดเผยข้อมูลดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ซึ่งสะท้อนการใช้จ่ายของประชาชน

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 11 ธ.ค.ที่ 36,404.93 จุด เพิ่มขึ้น 157.06 จุด หรือ +0.43%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 4,622.44 จุด เพิ่มขึ้น 18.07 จุด หรือ +0.39% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส ปิดที่ 14,432.49 จุด เพิ่มขึ้น 28.51 จุด หรือ + 0.20%

ทั้งนี้ สหรัฐมีกำหนดเปิดเผยดัชนี CPI ประจำเดือนพ.ย.ในวันนี้ เวลาประมาณ 20.30 น.ตามเวลาไทย และจากนั้นจะเปิดเผยดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนพ.ย.ในวันพุธ โดยนักลงทุนจับตาข้อมูลเหล่านี้อย่างใกล้ชิด เนื่องจากจะมีผลกระทบต่อการตัดสินใจการปรับขึ้น หรือคงอัตราดอกเบี้ยนฏยบายในการประชุมนโยบายการเงินของเฟดในวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้

อย่างไรก็ตาม ผลการสำรวจประจำเดือนพ.ย.ของเฟดสาขานิวยอร์กพบว่า ตัวเลขคาดการณ์เงินเฟ้อของผู้บริโภคสหรัฐในระยะเวลา 1 ปีข้างหน้า อยู่ที่ 3.4% ลดลงจาก 3.6% ในเดือนต.ค. และยังแตะระดับต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนเม.ย. 2564 โดยข้อมูลดังกล่าวทำให้ตลาดมีความหวังว่าเงินเฟ้อของสหรัฐจะปรับตัวลงโดยไม่ทำให้เศรษฐกิจเผชิญภาวะถดถอย และจะเป็นปัจจัยสนับสนุนให้เฟดเริ่มปรับลดอัตราดอกเบี้ยในปีหน้า

ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนเชื่อมั่นว่า เฟดจะเริ่มเข้ามาโหมดของการคงดอกเบี้ยก่อนลดดอกเบี้ยลงในอนาคต โดยล่าสุดจาก FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนส่วนใหญ่คาดการณ์ว่า เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 12-13 ธ.ค.นี้ แต่ให้น้ำหนักเพียง 43% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนมี.ค. 2567 และให้น้ำหนักเกือบ 75% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในเดือนพ.ค. 2567

หุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์พุ่งขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นำโดยหุ้บบรอดคอม (Broadcom) ทะยานขึ้นเกือบ 9% หลังจากซิตี้กรุ๊ปให้น้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นบรอดคอมที่ระดับ “Buy”

หุ้นซิกนา (Cigna) ซึ่งเป็นบริษัทประกันสุขภาพ พุ่งขึ้น 16.6% หลังจากบริษัทประกาศแผนการซื้อหุ้นคืนมูลค่า 1 หมื่นล้านดอลลาร์ ขณะที่หุ้นไนกี้ ดีดตัวขึ้น 2.3% โดยได้แรงหนุนจากการที่ซิตี้กรุ๊ปปรับเพิ่มน้ำหนักความน่าลงทุนของหุ้นไนกี้สู่ระดับ “Buy” จากระดับ “Neutral” หรือ “คงน้ำหนักการลงทุน”

ขณะที่ค่าเงินดอลลาร์สหรัฐฯ ยังคงแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลัก ๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กในวันจันทร์ที่ 11 ธ.ค. ที่ผ่านมา โดยมองว่าเศรษฐกิจสหรัฐจะยังฟื้นตัวได้ต่อเน่ือง