ดัชนีดาวโจนส์ดีดตัวขึ้นเหนือ 27,000 จุดนักลงทุนมีมุมมอง การเจรจาการค้าจีน-สหรัฐฯดีขึ้น

  • หลังจีนตกลงใจนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐฯเพิ่ม 6 แสนตัน
  • สหรัฐฯแจงไม่มีอะไรในก่อไผ่กรณีจีนไม่ได้พบเกษตรกรสหรัฐฯ
  • ด้านตัวเลขเศรษฐกิจเยอรมณีส่อแววปรับดีขึ้นบ้าง

เวลาประมาณ 21.45 น.ดัชนีอุตสาหกรรมดาวโจนส์ เคลื่อนไหวในแดนบวก โดยดัชนีกลับมาสูงกว่า 27,000 จุดอีกครั้ง โดยอยู่ที่ 27,003.15 จุด เพิ่มขึ้น 53.16 จุด หรือ+0.20% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส เคลื่อนไหวอยู่ที่ 8,101.78 จุดลดลง 10.69 จุดหรือ -0.13% ส่วนดัชนีเอสแอนด์พี 500 ใกล้กลัยมาแตะ 3,000 จุด โดยเคลื่อนไหวอยู่ที่ 2,997.67 จุด บวกเพิ่มขึ้น 5.89 จุด หรือ +0.20%

ทั้งนี้ นักลงทุนเริ่มมีมุมมองในแง่ดีต่อผลการเจรจาการค้าระหว่างจีนและสหรัฐฯเพิ่มขึ้น เพราะแม้ว่า หลังการเจรจาการค้าในระดับรัฐมนตรีช่วยระหว่างสหรัฐและจีนที่กรุงวอชิงตันในสัปดาห์ที่แล้ว ทางการจีนจะกลับประเทศก่อนกำหนด โดยไม่ได้พบปะกับเกษตรกรสหรัฐฯ ตามกำหนดการเดิมที่มีไว้ล่วงหน้า

แต่อย่างไรก็ตาม มีรายงานข่าวว่า จีนได้สั่งนำเข้าถั่วเหลืองจำนวน 600,000 ตันจากสหรัฐ ซึ่งถือเป็นจำนวนการสั่งมากที่สุดนับตั้งแต่ที่จีนปรับเพิ่มภาษีที่เรียกเก็บจากถั่วเหลืองที่นำเข้าจากสหรัฐสู่ระดับ 25% ในเดือนก.ค.ปีที่แล้ว ซึ่งถือเป็นการส่งสัญญาณบวกต่อการบรรลุข้อตกลงการค้าในการเจรจาในระดับรัฐมนตรีระหว่างสหรัฐและจีนที่จะมีขึ้นในเดือนหน้า

นอกจากนั้น สำนักข่าวบลูมเบิร์ก ยังรายงานว่า รัฐบาลจีนได้อนุญาตให้บริษัทจีนหลายแห่งสามารถนำเข้าถั่วเหลืองจากสหรัฐอย่างน้อย 2 ล้านตันโดยไม่ต้องเสียภาษีนำเข้า

ขณะที่ นายสตีเวน มนูชิน รัฐมนตรีคลังสหรัฐฯ ชี้แจงเหตุผลที่การที่จีนได้ประกาศยกเลิกการเดินทางไปเยือนฟาร์มสหรัฐว่า เป็นไปตามคำขอจากรัฐบาลสหรัฐเอง เนื่องจากตนไม่ต้องการก่อให้เกิดความสับสนในตลาด เพราะจีนก็ได้เริ่มซื้อสินค้าเกษตรของสหรัฐแล้ว

ขณะเดียวกัน ตัวเลขเศรษฐกิจยุโรป ซึ่งเป็นอีกปัจจัยหนึ่งที่นักลงทุนกังวลในช่วงก่อนหน้า วันนี้ปรับตัวดีขึ้น โดย Ifo ซึ่งเป็นสถาบันวิจัยเศรษฐกิจของเยอรมนี เปิดเผยว่า ดัชนีความเชื่อมั่นภาคธุรกิจของเยอรมนีปรับตัวขึ้นสู่ระดับ 94.6 ในเดือนก.ย. โดยสูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้ที่ระดับ 94.5 จากระดับ 94.3 ในเดือนส.ค. หลังจากปรับตัวลงติดต่อกัน 5 เดือน