ชั่วโมงนี้ต้องคุมเข้ม! “ฉก.ร.7” สั่งเข้มงวดตรวจผู้ลี้ภัยตามแนวชายแดน เผยชาวแม่ฮ่องสอนหวั่นเชื้อโควิดเมียนมา ทำสถานการณ์ปั่นป่วน

พ.อ.ชายแดน กฤษณสุวรรณ ผู้บังคับหน่วยเฉพาะกิจ กรมทหารราบที่ 7 (ฉก.ร.7) เปิดเผยว่า จากสถานการณ์การระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ในประเทศเมียนมาที่มีความรุนแรง และมีผู้ติดเชื้อกว่า 28,000 ราย อยู่ขณะนี้ ล่าสุดได้มีการระบาดลามเข้ามาในประเทศไทย ในพื้นที่ จ.เชียงราย และ จ.เชียงใหม่ นั้น โดยทางด้านหน่วยเฉพาะกิจกรมทหารราบที่ 7 ได้มีการคุมเข้มการเข้า – ออก ของผู้ลี้ภัย ตามแนวชายแดนอย่างเข้มงวด โดยได้มีการสั่งการไปยังกำลังพลและหน่วยขึ้นตรงต่างๆ ในพื้นที่ ให้ประสานความร่วมมือกับเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครองอำเภอเมืองแม่ฮ่องสอน โดยได้มอบนโยบาย/ข้อสั่งการ เน้นย้ำมาตรการในการป้องกันโรคติดเชื่อไวรัสโคโรน่า 2019 (โควิด-19) โดยมีรายละเอียดดังนี้

1.ให้เข้มงวดการผ่านเข้า – ออกศูนย์พักพิง และการลักลอบอ้อมผ่านจุดตรวจ 2.ชะลอ หรืองดการจัดกิจกรรมภายในศูนย์ที่มีความเสี่ยงจากการรวมกลุ่ม 3.องค์กร NGO ชะลอการดำเนินกิจกรรมที่เสี่ยงต่อการแพร่เชื้อ 4.ขอความร่วมมือทุกภาคส่วน ร่วมกันป้องกันการแพร่ระบาดของโรค ทั้งจากภายในและภายนอกที่จะนำเข้าสู่ศูนย์พักพิงฯ

อย่างไรก็ตาม จากสถานการณ์ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศเมียนมา รวมถึงเชื้อได้ระบาดลุกลามเข้ามาในประเทศไทยแล้วนั้น สำหรับประชาชนคนไทยในแม่ฮ่องสอนที่อาศัยอยู่ติดแนวชายแดน และมีหลายพื้นที่ที่มีช่องทางธรรมชาติเข้า-ออกระหว่างไทยกับเมียนมา เรื่องดังกล่าว ประชาชนส่วนใหญ่มีความวิตกกังวลอย่างหนัก เนื่องจากแนวชายแดนไทย กับเมียนมา มีระยะทางยาวกว่า 500 กม.

อีกทั้งยังพบว่า ยังคงมีการลักลอบเดินทางเข้า – ออก ระหว่างคนท้องถิ่นของสองประเทศอย่างต่อเนื่อง ซึ่งคนส่วนใหญ่หวั่นว่า สักวันการระบาดในประเทศเมียนมาจะลุกลามเข้ามาในพื้นที่จังหวัดแม่ฮ่องสอนและจะทำให้สถานการณ์ปั่นป่วน และกระทบต่อภาพรวมทั้งในด้านการดำรงชีวิต และเศรษฐกิจของประเทศไทย