นายราเมศ รัตนะเชวง โฆษกพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวถึงสถานการณ์การซื้อขายสินค้าอุปโภคบริโภคของพี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด-19 ว่า นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ หัวหน้าพรรค ในฐานะรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพาณิชย์ ให้ความสำคัญเรื่องราคาสินค้าที่จะต้องไม่ขายเกินราคา ซ้ำเติมพี่น้องประชาชนในช่วงสถานการณ์เช่นนี้ และหากฝ่าฝืนจะมีความผิดตามกฎหมายด้วย
ทั้งนี้จะเห็นว่าในส่วนของปริมาณสินค้าสำหรับอุปโภคบริโภค นายจุรินทร์ กล่าวย้ำว่า ขณะนี้พี่น้องประชาชนไม่จำเป็นต้องกังวลว่าสินค้าจะขาดแคลน กระทรวงพาณิชย์พร้อมดูแลอย่างเต็มที่ ผู้ค้าที่คิดแสวงหากำไรเกินควรก็ต้องระมัดระวัง เพราะจะมีความผิดตามกฎหมาย มีโทษจำคุกไม่เกิน 7 ปี ปรับไม่เกิน 140,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ รวมไปถึงสินค้าจำเป็นต้องปิดป้ายแสดงให้ชัดเจน เพื่อให้ประชาชนได้ตัดสินใจในเรื่องราคา ถ้าไม่ปิดก็ปรับไม่เกิน 10,000 บาท
นายราเมศ กล่าวว่า ขณะนี้มีเรื่องร้องเรียนมาที่ตนจำนวนมาก จากการที่มีกลุ่มมิจฉาชีพใช้ช่องทางโซเชียลมีเดีย หลอกขายสินค้าให้กับประชาชน โอนเงินไปแล้วไม่ได้รับสินค้าหรือได้รับสินค้าแต่เป็นสินค้าปลอมไม่ตรงตามความจริง หลายรายซื้อสินค้าแล้วได้รับสินค้าพลาสติก ไม่ตรงตามปก พฤติกรรมของผู้ขายตั้งใจหลอกลวงฉ้อโกงประชาชนมาตั้งแต่ต้น เมื่อไปแจ้งความต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจก็ไม่สามารถดำเนินการจับกุมได้ ทำให้ประชาชนเดือดร้อนเป็นจำนวนมาก ซึ่งการที่มิจฉาชีพอาศัยสถานการณ์เช่นนี้ซ้ำเติมพี่น้องประชาชนเป็นเรื่องที่เลวร้ายที่สุด
“อยากเรียกร้องไปยังผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติได้โปรดตั้งทีมเฉพาะกิจที่มีความเชี่ยวชาญอย่างแท้จริงมาทำงานในเชิงรุก จับกุมให้ได้เพื่อไม่ให้มิจฉาชีพเกิดความย่ามใจไปว่าตำรวจไม่สามารถจับกุมได้ โดยต้องทำงานร่วมกันกับกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม สำหรับหาวิธีการทั้งการป้องกันและปราบปราม และทุกฝ่ายต้องช่วยกันไม่ให้เกิดลักษณะเช่นนี้ซึ่งถือเป็นการซ้ำเติมวิกฤติที่เป็นอยู่ในปัจจุบัน” นายราเมศ กล่าว
