นายกิตติพงศ์ กิตติขจร รองผู้อำนวยการท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (สายปฏิบัติการ 1) บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด(มหาชน) (ทอท.) เปิดเผยว่า วันนี้ (13 พ.ย.2563) ฝ่ายรักษาความปลอดภัย ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ (ทสภ.) และศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับชุดสืบสวน ตร.ท่องเที่ยว สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันจับกุม นายณัฐกฤต สมนามอายุ 59 ปี ณ บริเวณชานชาลาด้านนอกอาคารผู้โดยสารชั้น 2 ประตู 3 ผู้ต้องหาคดีลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน ตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการ
นายกิตติพงศ์ กล่าวว่า สืบเนื่องมาจาก เมื่อวันที่ 10 พ.ย.2563 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับการประสานจาก ผู้เสียหาย ซึ่งเป็นผู้โดยสารชาวไทย ขอตรวจสอบกล้องวงจรปิดย้อนหลัง เมื่อวันที่ 9 พ.ย.2563 เวลาประมาณ 12.05 น. ผู้เสียหายได้เดินทางมาถึงท่าอากาศยานสุวรรณภูมิแล้วลืมกระเป๋าอุปกรณ์เครื่องสักคิ้ว และเครื่องสำอาง ราคาประมาณ 15,000 บาท ไว้บนเก้าอี้ บริเวณชานชาลาด้านนอกอาคารผู้โดยสารชั้น 2 ประตู 3 เจ้าหน้าที่ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ และฝ่ายรักษาความปลอดภัยท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ พร้อมด้วยเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ร่วมกันตรวจสอบกล้องวงจรปิด จึงพบชายต้องสงสัยได้หยิบกระเป๋าของผู้เสียหายไปขึ้นรถอินโนว่าสีดำ หมายเลขทะเบียน ณข-1430 กทม.(ป้ายเขียว) จากนั้นจึงได้ติดต่อไปยังผู้ต้องสงสัย ทราบชื่อนายณัฐกฤต สมนาม และรวบรวมหลักฐาน ส่งมอบให้พนักงานสอบสวน สภ.ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ เพื่อดำเนินการขอศาลออกหมายจับ
ทั้งนี้ ผู้ต้องสงสัย เป็นกลุ่มที่เข้ามาแสวงหาผลประโยชน์ใน ทสภ. ซึ่งศูนย์ปฏิบัติการพิเศษได้ทำการตรวจสอบประวัติผู้ต้องสงสัยพบว่า เคยมีประวัติเป็นไกด์ผี จึงประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจ เข้าจับกุมตามหมายจับของศาลจังหวัดสมุทรปราการที่ 493/63 นำตัวมาที่ สภ. ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ โดยผู้ต้องหาได้ยอมรับว่าตนเองได้หยิบกระเป๋าใบดังกล่าวไปจริง โดยเบื้องต้นเจ้าหน้าที่ตำรวจได้แจ้งข้อหา ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน และได้ทำบันทึกจับกุมส่งให้พนักงานสอบสวนดำเนินคดีต่อไป
ทั้งนี้ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพ ซึ่งความผิดในข้อหา “ลักทรัพย์ในท่าอากาศยาน” ตามมาตรา 335 มีโทษจำคุกตั้งแต่ 1 ปี ถึง 5 ปี หรือปรับ 20,000 – 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
“ทสภ. ให้ความสำคัญในการดูแลรักษาความปลอดภัยต่อชีวิตและทรัพย์สินของผู้ใช้บริการทุกท่าน โดยมีฝ่ายรักษาความปลอดภัย ทสภ. ศูนย์ปฏิบัติการพิเศษ ร่วมกับหน่วยงานความมั่นคงในพื้นที่ ทั้งตำรวจและทหาร เพื่อคอยดูแลรักษาความปลอดภัยตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความอุ่นใจแก่ผู้ใช้บริการ ทสภ. หากผู้ใช้บริการท่านใดพบเห็นสิ่งผิดปกติหรือประสบเหตุด่วน เหตุร้าย สามารถแจ้งศูนย์รักษาความปลอดภัย ทสภ. โทร. 0 2132 4000 ได้ตลอด 24 ชั่วโมง” นายกิตติพงศ์ กล่าว
