คลังเร่งสรุปตั้งกองทุนรวมทดแทน LTF ใน 2 สัปดาห์

  • กองทุนใหม่ต้องตอบโจทย์ออมเงินระยะยาว
  • เศรษฐกิจโลกปีหน้าผันผวน ต้องเตรียมออกมาตรการช่วย
  • ดันไทยศูนย์กลางในการระดมทุนในภูมิภาค

นายอุตตม สาวนายน รมว.คลัง เปิดเผยหลังเป็นประธานเปิดงาน “มหกรรมการลงทุนแห่งปี SET in the City 2019” ณ ศูนย์การค้าสยามพารากอน  ว่า ภายใน 2 สัปดาห์ กระทรวงการคลัง เตรียมจะสรุปมาตรการทางภาษีเพื่อสนับสนุนกองทุนรวมรูปแบบใหม่ที่จะนำมาทดแทนกองทุนรวมหุ้นระยะยาว(LTF) ที่จะหมดสิทธิประโยชน์ทางภาษีสิ้นปีนี้ โดยเบื้องต้นเป้าหมายของกองทุนใหม่ คือ ต้องสนับสนุนการออมระยะยาว และพยายามให้เข้าถึงประชาชนทั่ว คนวัยทำงาน และผู้สูงวัย เข้าถึงกองทุนนี้ให้มากที่สุด

ส่วนรูปแบบกองทุนใหม่นี้จะต้องตอบโจทย์การออมระยะยาว และเป็นผลดีต่อการลงทุนในตลาดทุนด้วย ส่วนรายละเอียดในเรื่องระยะเวลาที่จะสนับสนุนทางด้านภาษีกี่ปีนั้น ขณะนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องอยู่ระหว่างการหารือเรื่องดังกล่าวอยู่

“ส่วนภาพรวมเศรษฐกิจในปีหน้ายังมีความผันผวนและมีความไม่แน่นอนสูง ดังนั้นเศรษฐกิจไทยจึงมีโอกาสที่จะขยายตัวได้ดีหรือไม่ดีก็ได้ ซึ่งไทยจะต้องเตรียมพร้อมมาตรการเพื่อจะรองรับอย่างต่อเนื่อง และมาตรการที่ออกมานั้นจะต้องออกในจังหวะที่เหมาะสม”

ทั้งนี้กระทรวงการคลังได้ขอให้ตลาดทุนของไทยเข้ามามีส่วนร่วมในการดูแลและพัฒนาเศรษฐกิจ โดยสิ่งที่สำคัญ คือ การให้ความรู้ทางด้านการเงินแก่ประชาชนในต่างจังหวัด เนื่องจากมองว่า การลงทุนไม่ควรเกิดขึ้นเฉพาะในเขตเมือง แต่ในต่างจังหวัดเองก็เป็นแหล่งทุนที่มีความมั่งคั่งที่จะทำให้เกิดการระดมทุนผ่านตลาดทุนได้ โดยกระทรวงการคลังจะประสานสถานศึกษาแต่ละจังหวัดให้ร่วมให้ความรู้ด้านการเงินแก่ประชาชนร่วมกับตลาดทุนด้วย

นอกจากนี้ยังขอให้ตลาดทุนทำหน้าที่เชื่อมโยงตลาดในต่างประเทศ โดยเฉพาะในภูมิภาคกลุ่มประเทศ CLMV(กัมพูชา ลาว พม่า เวียดนาม) เพื่อให้ไทยเป็นศูนย์กลางในการระดมทุนในภูมิภาค เช่น ขณะนี้ที่ประเทศไทยเองก็เป็นแหล่งระดมทุนให้กับรัฐบาลลาวเป็นต้น รวมทั้งเชื่อมโยงกับหน่วยงานภาครัฐต่างๆ ทั้งกระทรวงการคลังและธนาคารแห่งประเทศไทย(ธปท.) เพื่อสนับสนุนการใช้เทคโนโลยีบล็อกเชนเพื่อช่วยให้การส่งผ่านข้อมูลต่างๆ มีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น

“กระทรวงการคลังได้เสนอพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีแต่งตั้งคณะกรรมการพัฒนาตลาดทุนเรียบร้อยแล้ว โดยคณะกรรมการชุดนี้ จะทำหน้าที่พัฒนาตลาดทุนโดยประสานการทำงานร่วมกับตลาดทุนและหน่วยงานภาคเอกชนต่างๆ โดยเบื้องต้นอีก 2 สัปดาห์ข้างหน้าคณะกรรมการชุดดังกล่าวจะนัดประชุมครั้งแรก”