กรมอนามัย ห่วงเด็กอ้วนในวัยเรียน เป็นผู้ใหญ่อ้วนวันหน้าถึง 5 เท่า 

  • มีผลกระทบต่อทั้งร่างกาย จิตใจ และสังคม 
  • ความเสี่ยงต่อภาวะบกพร่องด้านสติปัญญา 
  • มูลค่าต้นทุนทางเศรษฐกิจที่เกิดจากโรคอ้วนของไทยสูงถึง 12,142 ล้านบาท

ดร.นายแพทย์สราวุฒิ บุญสุข รองอธิบดีกรมอนามัย เปิดเผยในการสัมมนาวิชาการ เรื่อง การพัฒนารูปแบบการจัดการลดน้ำหนักในเด็กวัยเรียน ณ กรมอนามัย กระทรวงสาธารณสุข ว่าสาเหตุของโรคอ้วนในเด็กส่วนใหญ่ เกิดจากวิถีชีวิตที่เปลี่ยนไป การตลาดอาหารที่มีอิทธิพลต่อการเลือกซื้อสินค้า ขาดการจัดการสิ่งแวดล้อมที่เอื้อต่อการเลือกกินอาหารที่ดีต่อสุขภาพ เลือกกินอาหารที่ให้พลังงานสูง สถานที่ออกกำลังกายไม่เพียงพอ ออกกำลังกายน้อยลง มีพฤติกรรมเนือยนิ่งเพิ่มมากขึ้น ส่งผลให้เด็กมีน้ำหนักตัวเพิ่มมากขึ้นจนเป็นโรคอ้วน  

สำหรับแนวทางการแก้ไขเด็กนักเรียนอ้วนต้องการความร่วมมือจากทุกภาคส่วน ทั้งโรงเรียน สถานบริการสาธารณสุข ครอบครัวและชุมชน โดยโรงเรียนจะต้องมีระบบเฝ้าระวังภาวะอ้วนของนักเรียน ประเมินภาวะโภชนาการและการเจริญเติบโตของเด็กทุก 3 เดือน เพื่อจัดการภาวะโภชนาการ ปรับพฤติกรรมการกิน สร้างวินัยและฝึกนิสัยการกินที่ดี กำกับติดตามประเมินคุณภาพการจัดอาหารกลางวัน ส่งเสริมให้สถานศึกษาจำหน่ายอาหารและเครื่องดื่มที่ดีต่อสุขภาพ ผลักดันการเรียนการสอนด้านโภชนาการผ่านกลุ่มสาระการเรียนรู้ การจัดสภาพแวดล้อมให้เอื้อต่อการบริโภคอาหารและมีกิจกรรมทางกายที่เหมาะสม รวมทั้งคัดกรอง Obesity sign ในเด็กที่มีภาวะอ้วนเพื่อส่งต่อการรักษาในเด็กที่พบ Obesity sign ทั้งนี้ ยังต้องการความร่วมมือจากภาคีเครือข่ายสาธารณสุข กระทรวงศึกษาธิการ และองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นในการเข้ามาขับเคลื่อนงานด้วยกระบวนการแบบมีส่วนร่วม

“ดังนั้น กรมอนามัยจึงต้องพัฒนารูปแบบการจัดการลดน้ำหนักในเด็ก โดยร่วมกับภาคีเครือข่าย เพื่อแลกเปลี่ยนการดำเนินงานเพื่อลดน้ำหนักในเด็กนักเรียน ทั้งในเขตเมืองและนอกเขตเมืองซึ่งมีความแตกต่างกัน เช่น การใช้โภชนาการบำบัด การสื่อสารสร้างฝึกทักษะให้รอบรู้ หรือการสร้างเป็นโมเดลการจัดการลดน้ำหนักในเด็กวัยเรียน 3 Modules ประกอบด้วย 1) ทักษะโภชนาการ 2) ทักษะกิจกรรมทางกาย และ 3) การจัดการพฤติกรรม โดยใช้เทคนิค 3 Self ประกอบด้วย 1) ทักษะการดูแลตนเอง 2) ทักษะการเผชิญปัญหา 3) การจัดสิ่งแวดล้อมที่บ้าน โรงเรียน และเครื่องมือต่างๆ เช่น คู่มือ คลิปวีดีโอ สมุดบันทึก แบบประเมินพฤติกรรม มุ่งหวังให้โรงเรียน สถานบริการสาธารณสุข ครอบครัวและชุมชน ร่วมกันแก้ไขปัญหา ให้เด็กไทยแข็งแรง มีสุขภาพดีดีต่อไป”