กรมธนารักษ์ ส่งผลสอบข้อเท็จจริง “ท่อส่งน้ำภาคตะวันออก” ให้”อาคม”​พิจารณาแล้ว

  • หากไม่ติดขัด ไม่มีประเด็นเพิ่ม
  • คาดลงนามสัญญากับ”วงษ์สยามก่อสร้าง”
  • ภายใน 1-2 เดือนนี้รู้ความชัดเจนแน่

นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รมว.คลัง  เปิดเผยว่า ขณะนี้ยังรอให้คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกภายใต้พื้นที่เขตพัฒนาพิเศษภาคตะวันออก (อีอีซี) ที่มีนายวิจักษณ์ อภิรักษ์นนท์ชัย ผู้ตรวจราชการกระทรวงการคลังเป็นประธาน ส่งมาให้พิจารณาอยู่ จึงยังตอบว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไร และต้องมีการขยายประเด็น หรือเวลาตรวจสอบเพิ่มหรือไม่ หรือกรอบเวลาต่างๆ จะต้องลงนามในช่วงไหน

นายประภาศ คงเอียด อธิบดีกรมธนารักษ์  กล่าวว่า  คณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงการดำเนินโครงการบริหารและดำเนินกิจการระบบท่อส่งน้ำสายหลักในภาคตะวันออกภายฯ ได้เตรียมสรุปผลการตรวจสอบข้อเท็จ เพื่อนำเสนอรมว.คลังพิจารณา  หากรมว.คลังพิจารณาแล้ว และไม่มีความเห็นเพิ่มเติม ก็น่าจะนำไปสู่การเรียกผู้ชนะประมูล คือ บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง จำกัด มาทำสัญญาได้ภายใน 1-2 เดือนข้างหน้านี้

“กรมธนารักษ์  ต้องรอคำสั่งของรมว.คลังว่าจะสั่งการอย่างไรในเรื่องนี้ต่อไป ดังนั้นในช่วงนี้ก็ต้องรอคำสั่งอย่างเดียว เพราะการตรวจสอบข้อเท็จจริงได้สิ้นสุดลงแล้ว ซึ่งมีการตรจสอบถึง 2 ครั้ง”

นายประภาศ กล่าวว่า การตรวจสอบข้อเท็จจริงรอบแรกรื่องของขั้นตอนการประมูลนั้น ทางคณะกรรมการชุดดังกล่าวได้มีข้อสรุปที่ชัดเจนแล้วว่า ขั้นตอนการประมูลนั้นเป็นไปอย่างถูกต้องและโปร่งใส ขณะเดียวกัน ทางกรมฯก็ได้ยืนยันมาตลอดว่า ขั้นตอนการประมูลนั้น มีความถูกต้อง แต่ทางรมว.คลังเห็นว่า ควรมีการตรวจสอบเพิ่มเติม ฉะนั้น การดำเนินโครงการดังกล่าวก็จะต้องขึ้นอยู่กับนโยบาย

“ข้อเสนอไปครั้งแรกก็ชัดเจนว่า ถูกต้อง แต่อาจมีบางประเด็นที่อยู่ในความสงสัยของสังคม ฉะนั้น ก็ให้คณะกรรมการไปเคลียร์ให้ชัดเจน เมื่อชัดเจนแล้วว่า ถูกต้องก็ไม่มีสาเหตุใดที่จะต้องให้มีความล่าช้าออกไป  และหากมีการเซ็นสัญญาเรียบร้อยแล้ว ทางกรมธนารักษ์ จะได้รับเงินงวดแรกจำนวนประมาณ 1,500 ล้านบาท และจะได้รับเงินตลอดอายุสัญญา 30 ปีกว่า 25,000  ล้านบาท

นายประภาศ กล่าาต่อว่า ในช่วงที่ผ่านมา  กรมธนารักษ์​ ได้ลงพื้นที่ร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งรวมถึง บริษัท  บริหารจัดการน้ำภาคตะวันออก จำกัด (มหาชน) หรืออีสวอเตอร์ ในฐานะคู่สัญญาปัจจุบัน  เพื่อตรวจสอบและสรุปสินทรัพย์ต่างๆก่อนที่จะส่งมอบมาให้บริษัท วงษ์สยามก่อสร้าง เพื่อดำเนินโครงการต่อไป ซึ่งอีสวอเตอร์ได้ให้ความร่วมมือกับเป็นอย่างดีในเรื่องของการเข้าตรวจสอบทรัพย์สินต่างๆ และขณะนี้ได้ตรวจสอบเรียบร้อยแล้ว และเมื่อสิ้นสุดสัญญาในปีวันที่ 31 ธ.ค.2566 อีสวอเตอร์ ก็จะส่งมอบทรัพย์สินมาให้กรมฯเพื่อให้บริษัทวงษ์สยามก่อสร้างรับมอบทรัพย์สินไปบริหารจัดการต่อไป”