กรมควบคุมโรค เฝ้าระวังฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น

กรมควบคุมโรค คาดการณ์สถานการณ์ฝุ่น PM2.5 มีแนวโน้มเพิ่มสูงขึ้น เมื่อเข้าสู่ช่วงฤดูหนาว เตรียมความพร้อมป้องกันโรคและภัยสุขภาพให้กับประชาชน

  • จำเป็นต้องมีการเฝ้าระวังสถานการณ์
  • มีแนวโน้มวันที่ฝุ่นเกินค่ามาตรฐานเพิ่มมากขึ้นด้วย
  • เตรียมความพร้อมในการป้องกันโรคให้กับประชาชน

 นพ.ธงชัย กีรติหัตถยากร รักษาราชการแทนอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวในที่ประชุมคณะกรรมการควบคุมโรคจากการประกอบอาชีพและโรคจากสิ่งแวดล้อมครั้งที่ 3/2566 ว่า การประชุมเพื่อทบทวนและพิจารณากฎกระทรวงและประกาศกระทรวงจำนวน 8 ฉบับ ได้แก่ 1. การกำหนดมาตรฐานการให้บริการอาชีวเวชกรรม 2. การกำหนดมาตรฐานการให้บริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อม 3. การขึ้นทะเบียนของหน่วยบริการ 4. การตรวจสุขภาพของแรงงานนอกระบบ 

5. การแจ้งข้อมูลที่จำเป็นเกี่ยวกับการเฝ้าระวัง การป้องกัน หรือการควบคุมโรคจากสิ่งแวดล้อมจากประชาชนที่ได้รับหรืออาจได้รับมลพิษ 6. คุณสมบัติหน่วยงานอื่นใดของรัฐในการขึ้นทะเบียน 7. การแจ้งและการรายงานข้อมูลการตรวจสุขภาพของลูกจ้างและแรงงานนอกระบบ หรือการเฝ้าระวังสุขภาพของประชาชนที่ได้รับหรืออาจได้รับมลพิษ 8. การเข้าไปในสถานประกอบกิจการของนายจ้าง และการเข้าไปยังแหล่งกำเนิดมลพิษ 

นอกจากนี้ที่ประชุมมีมติเห็นชอบทั้ง 8 ฉบับ และมีมติเห็นชอบเพิ่มเติม 2 เรื่องสำคัญ ได้แก่ 1. ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อหรืออาการสำคัญของโรคจากการประกอบอาชีพ พ.ศ. …. 2. ร่างประกาศกระทรวงสาธารณสุข เรื่อง ชื่อหรืออาการสำคัญของโรคจากสิ่งแวดล้อม พ.ศ. …. 

นายแพทย์อภิชาต วชิรพันธ์ รองอธิบดีกรมควบคุมโรค กล่าวว่า กรมควบคุมโรค มีมาตรการเพื่อการเฝ้าระวัง ป้องกัน ควบคุมโรค ภายใต้ 4 มาตรการสำคัญ ได้แก่ มาตรการที่ 1) พัฒนาฐานข้อมูลเพื่อการเฝ้าระวังโรคจากฝุ่น PM2.5 โดยพื้นที่จัดทำข้อมูลเพื่อเฝ้าระวังสุขภาพจากปริมาณฝุ่น PM2.5 2) ยกระดับการจัดบริการเวชกรรมสิ่งแวดล้อมกรณีฝุ่น PM2.5 ในหน่วยบริการสุขภาพ โดยเพิ่มกิจกรรมการคัดกรองโรคจากฝุ่น PM2.5 ทั้งเชิงรับและเชิงรุก และมีการสื่อสารความเสี่ยงแก่กลุ่มผู้ป่วยที่เข้ารับบริการ 3) สร้างความรู้ สื่อสารความเสี่ยง และพัฒนาความรอบรู้ด้านสุขภาพ โดยเฉพาะประชาชนกลุ่มเปราะบาง และ 4) ขับเคลื่อนกฎหมาย นโยบาย และมาตรการที่เกี่ยวข้อง

ทั้งนี้ ขอความร่วมมือพี่น้องประชาชนหมั่นดูแลสุขภาพตนเอง โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ควรเตรียมยาและอุปกรณ์ที่จำเป็นให้พร้อม สังเกตตนเอง หากมีอาการรุนแรงให้รีบพบแพทย์ทันที พร้อมกับให้ติดตามสถานการณ์ค่าฝุ่น PM2.5 ทางเว็บไซต์หรือแอปพลิเคชัน Air4thai ของกรมควบคุมมลพิษ นอกจากนี้ ขอเชิญชวนพี่น้องประชาชนทุกท่านช่วยกัน ลดการใช้รถยนต์ส่วนบุคคล หมั่นเช็คสภาพรถยนต์ หรือใช้บริการรถโดยสารสาธารณะไม่เผาป่า หรือการเผาขยะในครัวเรือน