กรมอุตุฯเตือน วันที่ 11 – 14 พ.ย.นี้ ให้ประชาชนภาคใต้ระวังอันตราย

กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนวันที่11 – 14 พ.ย.นี้ ให้ประชาชนภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก

กรมอุตุฯเตือนวันที่ 11 – 14 พ.ย.นี้ ขอให้ประชาชนภาคใต้ระวังอันตราย จากฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง

  • อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก
  • โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้าตั้งแต่เวลา06:00 น. วันนี้(10พ.ย.) ถึง 06:00 น. วันพรุ่งนี้(11พ.ย.) บริเวณความกดอากาศสูงหรือมวลอากาศเย็นกำลังอ่อนยังคงปกคลุมภาคเหนือตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนบนของประเทศไทย ทำให้บริเวณดังกล่าวมีหมอกในตอนเช้า ในขณะที่มีลมตะวันออกพัดปกคลุมบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ภาคตะวันออก ภาคกลางตอนล่าง และภาคใต้ ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย

แผนภาพแสดงพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก วันที่ 10 พฤศจิกายน 2566

ลักษณะเช่นนี้ทำให้บริเวณดังกล่าวยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ และมีฝนตกหนักบางแห่งในภาคใต้ตอนล่าง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก รวมทั้งเพิ่มความระมัดระวังในการสัญจรผ่านบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง      

สำหรับบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามัน ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองในระยะนี้ไว้ด้วย

สำหรับในช่วงวันที่ 11 – 14 พ.ย. 2566 ภาคใต้จะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่ง เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคใต้ตอนล่าง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณชายฝั่งประเทศมาเลเซีย ขอให้ประชาชนบริเวณภาคใต้ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

สภาพอากาศประเทศไทยวันที่ 10 พฤศจิกายน 2566

สภาพอากาศสำหรับประเทศไทย

  • กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่

อุณหภูมิต่ำสุด 25-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส

  • ภาคเหนือ

มีหมอกในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนองเล็กน้อยบางแห่ง

อุณหภูมิต่ำสุด 21-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-36 องศาเซลเซียส

  • ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีหมอกบางในตอนเช้า โดยมีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 20 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดนครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

อุณหภูมิต่ำสุด 22-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

  • ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 30 ของพื้นที่  ส่วนมากบริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี นครปฐม สมุทรสาคร และสมุทรสงคราม

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส

  • ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดสระแก้ว ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

  • ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดสุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง สงขลา ปัตตานี ยะลา และนราธิวาส

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส

ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

  • ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดพังงา กระบี่ ตรัง และสตูล

อุณหภูมิต่ำสุด 23-25 องศาเซลเซียส

อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส

ทะเลมีคลื่นต่ำกว่า 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 1 เมตร

ขอบคุณข้อมูลจาก กรมอุตุนิยมวิทยา