TCEB ชี้ไมซ์ปรับด่วน 3 ธุรกิจ “โรงแรม-ศูนย์ประชุม-บริษัท” ลั่น 10 ปีหน้า ตลาดโลกเปลี่ยนแรง

TCEB กางแผน 10 ปีหน้าตลาดไมซ์โลกเปลี่ยนชี้เป้าเอกชนไทยปรับด่วน 3 ธุรกิจ “โรงแรม/รีสอร์ต-ศูนย์ประชุม-บริษัทจัดไมซ์” เร่งรับมือกำลังซื้อ GenZ

  • ดึงไมซ์ซิตี้ไมซ์ชุมชนรับมือตลาดใหม่ Gen Z ผงาด
  • เป็นผู้อิทธิพลของโลกปี 67 ไทยหวังรายได้ 1.4 แสนล้าน

นายจิรุตถ์ อิศรางกูร ณ อยุธยา ผู้อำนวยการสำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) “TCEB” เปิดเผยว่า ทีเส็บได้นำผลวิจัย MICE Forsight มาขับเคลื่อนไมซ์โดยคาดการณ์ในอนาคต 10 ปี หลังดำเนินงานผ่านมาแล้ว 2 ทศวรรษ 20 ปี ซึ่งพบข้อมูลชี้ให้เห็นสัญญาณซึ่งมีผลโดยตรงกับอนาคตของอุตสาหกรรมไมซ์ในไทยที่น่าสนใจ 3 เรื่อง ได้แก่ เรื่องที่ 1 พฤติกรรมของคนไมซ์เปลี่ยนแปลงไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง เรื่องที่ 2 ผู้มีอิทธิพลในตลาดทศวรรษหน้าจะกลยเป็นกลุ่ม Gen Z กว่า 30 % จะ เรื่องที่ 3 ผู้เล่นหรือผู้จัดงานไมซ์จะเปลี่ยนไปเป็นกลุ่มสนใจเฉพาะมากขึ้น (niche market) ตัวอย่าง ปี 2567 การจัดงาน Money Twenty Twenty ทีเส็บร่วมกับสำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล ( DEPA :Digital Economy Promotion Agency) จัดขึ้นในไทย จะมีคนเข้าร่วมกว่า 5,000 คน ปรากฎว่ากลุ่มผู้จัดไม่ใช่ออร์กาไนเซอร์ปกติแต่กลายเป็นคนในวงการธุรกิจเทคผสมกับฟินเทคที่เชี่ยวชาญทางการเงิน รวมทั้งการจัดงานประชุมนานาชาติขนาดใหญ่ (Convention) ก็ผสมเข้ากับงานจัดแสดงสินค้า (Exhibition) กลายเป็น CONEX เพิ่มสูงขึ้นต่อเนื่อง

ตั้งแต่ปี 2567 เป็นต้นไปธุรกิจในไทยจะต้องปรับตัวตามเทรนด์อนาคตตลาดไมซ์นานาชาติคือ กลุ่มที่ 1 ผู้ประกอบการโรงแรมรีสอร์ต กลุ่มที่ 2 สถานที่จัดงาน ศูนย์ประชุม (Venue) 3.นักธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับอุตสาหกรรมไมซ์ทั้งธุรกิจในกรุงเทพฯ และต่างจังหวัดทั่วประเทศ เพื่อเตรียมความพร้อมการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ 3 เรื่อง คือ 1.จะมีกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เข้าสู่ตลาด 2.ลักษณะการจัดงานไมซ์จะไม่เหมือนเดิมอีกต่อไป 3.วิธีการจัดงานตามความคาดหวังทั้งไมซ์ในประเทศ เมกะอีเวนต์ ทุกฝ่ายจะต้องดำเนินการคล่องตัวมากขึ้น เพราะมีปัจจัยบ่งชี้ชัดเจนคือ ระยะเวลาจัดงานจะสั้นลง แต่มีความถี่ของนักเดินทางเลือกจัดงานถี่มากขึ้น

นายจิรุตถ์กล่าวว่า ทีเส็บได้เปิดแผนไมซ์ประจำปี 2567 โดยเชิญผู้เกี่ยวข้องแถวหน้าของประเทศเข้าร่วมรับฟังแลกเปลี่ยนพร้อมสะท้อนความเห็นถึงการขับเคลื่อนไมซ์อย่างมีทิศทางอีก 10 ปีข้างหน้า ซึ่งจะสามารถดึงเมืองไมซ์(MICE CITY) ที่ได้รับเลือกแล้ว 10 เมือง กับไมซ์ชุมชน (Community MICE) เข้ามามีบทบาทเพราะจะได้รับอานิสงมากขึ้น จากคู่ค้าทั่วโลกแสดงความต้องการเลือกสถานที่จัดงานไมซ์ยั่งยืน ทำให้ทั้งไมซ์ ซิตี้ และไมซ์ชุมชน จะต้องเริ่มปรับตัวเข้าสู่มาตรฐานไมซ์สากลตอนนี้วางรากฐานไว้แล้ว 2 โครงการ คือ TMVS :Thailand MICE Venue Standard และ AMVS :ASEAN MICE Venue Standard

โดยเฉพาะ “เทรนด์ตลาดไมซ์” อนาคตจะมีคนอายุน้อยลงเข้ามาร่วมวงธุรกิจมากขึ้น ดังนั้นผู้จัดงานและสถานที่ได้รับเลือกต้องตอบโจทย์ “ความคาดหวัง” คนเข้าร่วมงานซึ่งมีความหลากหลายมากขึ้นทั้งเรื่องวัย เด็ก ผู้สูงวัย ผู้บกพร่องทางกาย และอื่น ๆ นั่นหมายถึงจะลดการทำไมซ์เป็นแพกเกจได้น้อยลง แต่จะต้องออกแบบเฉพาะหรือเทเลเมดเป็นเมนูกิจกรรมให้ตรงตามความต้องการของลูกค้าแต่ละกลุ่มในงานเดียวกัน ฉนั้นจะต้องอำนวยความสะดวกให้งานจัดง่ายขึ้น เข้าถึงได้

นายจิรุตถ์ย้ำว่านับตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไปอุตสาหกรรมไมซ์ในไทยจะต้อง “เปลี่ยนแปลง/transform” เพื่อเตรียมพร้อมรับอนาคตอีก 10 ปีข้างหน้า ทั้งทางด้าน 1.วางแผนการฝึกอบรม 2.สร้างสถานที่อำนวยการให้ใช้งานได้แบบอเนกประสงค์ ห้องจะต้องได้มาตรฐานความยั่งยืน ทีเส็บมีหน้าที่ทำทันทีเพื่อขับเคลื่อนการเปลี่ยนผ่านความพร้อมของอุตสาหกรรมก้าวไปสู่จุดหมายใหม่ในทศวรรษหน้า

ตามแผนปี 2567 ทีเส็บตั้งเป้าหมายจะทำรายได้ไมซ์เข้าประเทศ 140,000 ล้านบาท โดยใช้เครื่องมือหลัก เน้นกระตุ้นเศรษฐกิจระยะสั้น Quick Win ด้วย 3 เครื่องมือหลัก ได้แก่ เครื่องมือที่ 1 ทำโร้ดโชว์กับเทรดโชว์แบบเจาะลึกมากขึ้น ระยะเวลาสั้นลงแล้วเลือกลงไปยังพื้นที่เป้าหมาย ตอนนี้กำลังเสนอของบประมาณกลางเข้ามากระตุ้นในเร็ววันนี้ เครื่องมือที่ 2 รับอานิสงงานใหญ่ที่เคยประมูลมาจัดในไทยตั้งแต่ปี 2563 เริ่มทยอยเข้ามาจัดในไทยตั้งแต่ปี2567-25670 เช่น งาน World Divinity 2024 และงาน World Bank เป็นงานคอนเว็นชั่นที่จะมีผู้เดินทางมาร่วมงานละกว่า 10,000 คน เครื่องมือที่ 3 สายการบินเพิ่มจุดบินและความถี่จากต้นทางเข้าสู่เมืองไทย

ปัจจุบันการจัดงานระดับนานาชาติ อันดับ 1 งานจัดแสดงสินค้า/Exhibition ทำได้ดีเกินเป้าหมาย ส่วนการประชุมนานาชาติ/Convention งานจัดประชุมสัมมนาและการเดินทางเพื่อเป็นรางวัล/MI :Meeting Incentive กำลังทยอยตามมาจัดมากขึ้น ตอนนี้เริ่มประมูลงานใหม่ปี 2567 โดยได้ผนวกจุดขายไทยแลนด์ ไมซ์ ซอฟท์ เพาเวอร์เข้าไปด้วย

ปัจจุบันทีเส็บได้เข้าไปเป็นหนึ่งในกรรมการของคณะกรรมการยุทธศาสตร์ซอฟท์ เพาเวอร์ 1 ใน 11 สาขา จึงได้เห็นการทำงานสมาคมต่าง ๆ ร่วมกับเมกะอีเวนต์ไมซ์ของทีเส็บจะเป็นแพลตฟอร์มสำคัญขับเคลื่อนร่วมอยู่ในซอฟท์ เพาเวอร์ แล้ว 4 สาขาใหญ่ ได้แก่ 1.กีฬา/SPORT 2.ดนตรี/MUSIC 3. ไลฟ์สไตล์ 4.อาหาร/FOOD ล่าสุดร่วมประชุมกับทางสมาคมโรงแรมไทยซึ่งเป็นคณะอนุกรรมการยุทธศาสตร์ ซอฟท์ เพาเวอร์ สาขาการท่องเที่ยว จะเน้นจัดไฮไลต์งานเทศกาล/Festival ทีเส็บจะรับผิดชอบดูแลตลาดต่างประเทศทั่วโลกนำไมซ์เข้าจะทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มเต็มรูปแบบตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป

ส่วนประโยชน์ที่ได้รับเพิ่มขึ้นหลังจากมีคณะกรรมการยุทธศาสตร์ ซอฟท์ เพาเวอร์ คือ สามารถสื่อสาร และรวมเทศกาลต่าง ๆ มาไว้ยังศูนย์กลางเดียว รวมทั้งเดินหน้าพัฒนาชุมชน อุตสาหกรรมท้องถิ่น ทำให้เกิดอิมแพ็คสินค้าที่มีความโดดเด่นเป็นพลังขับเคลื่อนตลาดการขายเพิ่มความขีดความสามารถทางการแข่งขันไมซ์ของไทยในตลาดโลกมากขึ้นได้แน่นอน

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen