“ชัชชาติ”ถึงมท.1“วันนั้นถึงท่านจะเป็นที่โหล่ แต่วันนี้ ท่านเป็นรองนายกฯ”

 “ชัชชาติ”ตอบกลับ มท.1“วันนั้นถึงท่านจะเป็นที่โหล่ แต่วันนี้ ท่านเป็นรองนายกฯ” ระหว่าง “อนุทิน” ตรวจเยี่ยม “กทม.”

  • กทม.-มหาดไทยผนึกกำลัง ยกระดับคุณภาพชีวิตคนกรุง
  • พร้อมสนับสนุนท่านผู้ว่าฯและกรุงเทพมหานครทุกเรื่อง
  • ตราบใดที่ประชาชนได้ประโยชน์

วานนี้(2 ตุลาคม 2566) ณ ศาลาว่าการกรุงเทพมหานคร (เสาชิงช้า) กรุงเทพฯ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมคณะผู้บริหาร ได้เดินทางมาตรวจเยี่ยม และมอบนโยบาย กทม. โดยได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่นจากนายชัชชาติ สิทธิพันธุ์ ผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร และคณะ 

ในระหว่างการตรวจเยี่ยม กทม. นายอนุทิน บอกว่า รู้จักผู้ว่าฯ ชัชชาติ มาตั้งแต่เด็ก “ท่านชัชชาติ นี่เรียนเก่ง ได้ที่ 1 ส่วนผมนี่เรียนที่โหล่” ในห้องประชุมหัวเราะครืน  ต่อด้วยว่า “ผู้ว่าฯ คนนี้ เป็นคนขยันมาแต่เด็ก คนกรุงเทพโชคดีมาก ได้คนแบบนี้มาทำงาน”

นายชัชชาติ สวนกลับว่า “วันนั้นถึงท่านจะเป็นที่โหล่ แต่วันนี้ ท่านเป็นรองนายกฯ”  ทำให้มีเสียงปรบมือลั่นห้องประชุม

ทั้งนี้ นายอนุทิน ระบุว่า กับท่านผู้ว่าฯ เราต่างมาจากการเลือกตั้งของประชาชน ทุกการขับเคลื่อนนโยบาย จะคำนึงถึงประโยชน์ของประชาชนเป็นหลัก ในฐานะรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย มาอยู่ตรงนี้ เพื่อจะบอกว่า เราเป็นมิตรกับกรุงเทพฯ และเชื่อมั่นในการผนึกกำลังทำงาน ให้คนเมืองหลวงได้ประโยชน์สูงสุด ขอชื่นชมท่านผู้ว่าฯ กทม.ในความทุ่มเททำงาน ขยัน ตั้งใจ ตนกับท่านผู้ว่าฯ ชัชชาติ เป็นเพื่อนกันมาตั้งแต่เด็ก ความสัมพันธ์ที่ดีนี้ จะส่งผลบวกในการทำงานแน่นอน

“ความท้าทายสำคัญในการขับเคลื่อนงานของกรุงเทพมหานคร คือ การประสานงานระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ซึ่งมีจำนวนมาก และในเรื่องนี้ รัฐบาลก็ตระหนักดี ท่านนายกรัฐมนตรีจึงได้มีคำสั่ง ลงวันที่ 18 กันยายน พ.ศ. 2566 แต่งตั้งคณะทำงานเร่งรัดพัฒนากรุงเทพมหานคร มีท่านนายกรัฐมนตรีนั่งเป็นประธานคณะทำงานด้วยตนเอง และมีผมเป็นรองประธาน เพื่อส่งเสริมให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำงานประสานและส่งเสริมกันอย่างไร้รอยต่อ”มท.1กล่าว

นายอนุทินกล่าวว่า เชื่อว่านี่เป็นการริเริ่มที่ดี เราจะได้ทำงานอย่างใกล้ชิด และช่วยกันอุดช่องโหว่ต่างๆ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน ตนพร้อมสนับสนุนท่านผู้ว่าฯและกรุงเทพมหานครทุกเรื่อง ตราบใดที่ประชาชนได้ประโยชน์

“ที่ผมขอเน้นย้ำ คืองาน OTOP ที่เพิ่งจบลงไปในสุดสัปดาห์ที่แล้ว ประสบความสำเร็จ เป็นการกระจายรายได้ให้พี่น้องประชาชน ผมเห็นว่า คณะกรรมการเร่งรัดฯ ที่เพิ่งเกิดขึ้น น่าจะบูรณาการส่วนต่างไ ของ กทม. และมหาดไทย ในการจัดงาน OTOP ในพื้นที่กรุงเทพฯ ได้ ทางกระทรวงมหาดไทย มีกรมพัฒนาชุมชนอยู่แล้ว และพร้อมบูรณาการการทำงานกับ กทม. นี่คือการเผยแพร่ภูมิปัญญาไทย ไปพร้อมกับการสร้างรายได้ กระตุ้นเศรษฐกิจชุมชน”

ช่องทางติดตาม The Journalist Club

กดติดตาม X ได้ที่ https://twitter.com/jnc_journalist

กดติดตามเฟซบุ๊กได้ที่ https://www.facebook.com/profile.php?id=100060918555962&mibextid=ZbWKwL

TikTok ได้ที่ https://www.tiktok.com/@thejournalistclub?_t=8g5imD6NcUZ&_r=1

เว็บไซต์ www.thejournalistclub.com