ข่าวดี!เกาหลีเพิ่มโควตารัฐให้ไทยจัดส่งแรงงานเพิ่มอีก 15%

จบทริปเยือนเกาหลีใต้ ได้สวย ! “พิพัฒน์” หารือ รมว.แรงงานเกาหลี  เพิ่มโควตารัฐจัดส่งแรงงานอีก 15% เปิดตลาดแรงงานเพิ่ม  ภาคบริการ และท่องเที่ยว ทำงานในโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร โอกาสทองของ แรงงานเพศหญิง

  • “พิพัฒน์” หารือ รมว.แรงงานเกาหลี  
  • เพิ่มโควตารัฐจัดส่งแรงงานอีก 15% 
  • เปิดตลาดแรงงานเพิ่ม ภาคบริการ และท่องเที่ยว 

นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รมว.แรงงาน พร้อมด้วยนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน และนายสมาสภ์ ปัทมะสุคนธ์ ผู้ตรวจราชการกระทรวงแรงงาน เข้าเยี่ยมคารวะ นายลี จอง ชิก รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานและการจ้างงาน แห่งสาธารณรัฐเกาหลี ณ กระทรวงแรงงานและการจ้างงานแห่งสาธารณรัฐเกาหลี เพื่อหารือข้อราชการ ประเด็นการเพิ่มโควตาจัดส่งแรงงานไทย ภายใต้ระบบแรงงานต่างชาติ EPS และการแก้ปัญหาแรงงานผิดกฎหมาย โดยมีนายบัญชา ยืนยงจงเจริญ อุปทูต ณ กรุงโซล นายนิธิพัฒน์ วัฒนสุวกุล อัครราชทูตที่ปรึกษา (ฝ่ายแรงงาน) เข้าร่วมในครั้งนี้ด้วย 

นายพิพัฒน์ กล่าวว่า สาธารณรัฐเกาหลีมีนโยบายกำหนดค่าจ้างขั้นต่ำในอัตราสูงตามภาวะการครองชีพ และมีกฎหมายมาตรฐานแรงงานที่ส่งเสริมคุณภาพชีวิตการทำงาน ทำให้เกาหลีใต้กลายเป็นจุดหมายสำคัญในการเดินทางไปทำงานของแรงงานต่างชาติทุกชาติ ไม่เว้นแรงงานชาวไทย ประกอบกับเกาหลีใต้ขาดแคลนแรงงานทักษะต่ำ โดยเฉพาะในภาคอุตสาหกรรมการผลิตขนาดกลางและขนาดย่อม งานภาคเกษตรกรรม และงานบริการ 

ซึ่งฝ่ายไทยได้เจรจาขอเพิ่มโควตานำเข้าแรงงานต่างชาติ (EPS) ในปี 2567 สำเร็จ โดยเกาหลีใต้เพิ่มโควตางานภาคอุตสาหกรรม เป็น 5,500 อัตรา หรือเพิ่มขึ้นร้อยละ 15 จากปี 2566 และยังชื่นชมกระบวนการจัดส่งแรงงานโดยกรมการจัดหางานว่าเป็นไปอย่างโปร่งใส มีประสิทธิภาพ จึงให้ประเทศไทยจัดส่งแรงงานภาคบริการ และท่องเที่ยว เพิ่มขึ้นอีกหนึ่งประเภทกิจการ เพื่อไปทำงานในโรงแรม รีสอร์ท ร้านอาหาร ซึ่งถือเป็นโอกาสดีของแรงงานเพศหญิง

นอกจากนี้ ยังเสนอการประชาสัมพันธ์เชิงรุก ตามโครงการเปลี่ยนวีซ่าแรงงานไร้ฝีมือ E-9 เป็นแรงงานฝีมือ วีซ่า E-7-4 เพื่อแก้ไขปัญหาขาดแคลนแรงงานทักษะให้เกาหลี พร้อมกับช่วยให้แรงงานไทยมีรายได้ สวัสดิการ และเงื่อนไขการพำนักในเกาหลีที่ดีขึ้น  โดยฝ่ายไทยยังเสนอให้พิจารณาโควตาทักษะฝีมือ (E-7) ให้แรงงานไทย ซึ่งฝ่ายเกาหลีจะรวบรวมข้อเสนอจากประเทศผู้ส่งให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาต่อไป 

นอกจากนี้ฝ่ายไทยเสนอให้กระทรวงยุติธรรมพิจารณาขยายระยะเวลาโครงการนิรโทษกรรม เพื่อเดินทางกลับประเทศโดยสมัครใจ ทางการเกาหลีแจ้งว่าไม่สามารถดำเนินการได้ แต่การแก้ไขปัญหาแรงงาน ผิด กฎหมายของฝ่ายไทย จะส่งผลดีต่อการพิจารณาโควตาแรงงานไทยในปีต่อๆไป

ด้านนายสมชาย มรกตศรีวรรณ อธิบดีกรมการจัดหางาน กล่าวว่า การเดินทางเยือนสาธารณรัฐเกาหลีในครั้งนี้ มีเป้าหมายสำคัญคือการเพิ่มโอกาสการจัดส่งแรงงานไทยไปทำงานต่างประเทศ ตามนโยบายที่นายพิพัฒน์ มอบไว้ให้กรมการจัดหางาน ซึ่งการจะบรรลุวัตถุประสงค์ได้ต้องอาศัยความร่วมมือจากรัฐบาลเกาหลีใต้ ในการแสวงหาโอกาส ลดข้อจำกัด และสร้างสรรค์แนวทางแก้ไขปัญหาอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อให้ความต้องการของประเทศผู้รับ และประเทศผู้ส่งแรงงานสอดคล้อง เกิดประโยชน์ร่วมกันทุกฝ่าย สามารถขับเคลื่อนเศรษฐกิจเกาหลีใต้ ไปพร้อมกับส่งเสริมแรงงานไทยให้มีคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้น