นายกฯ สั่งการแก้ปัญหา การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ อย่างเร่งด่วน

เศรษฐา ทวีสิน
เศรษฐา ทวีสิน นายกฯ สั่งการแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ อย่างเร่งด่วน


นายกฯ สั่งการหน่วยงานที่เกี่ยวข้องแก้ปัญหา การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ อย่างเร่งด่วน และรอบด้าน รวมทั้งเร่งดำเนินมาตรการบรรเทาความเดือดร้อนให้กับประชาชน

นายชัย วัชรงค์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ต่อสถานการณ์ การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ (Blackchin tilapia) ที่ส่งผลกระทบต่อระบบนิเวศ และเกษตรกร ผู้เพาะเลี้ยงสัตว์น้ำ นั้น นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี สั่งการ ให้หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ดำเนินการ อย่างเร่งด่วน เพื่อ แก้ไขปัญหา บรรเทาความเดือดร้อน ให้กับประชาชน

โดยกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ และ หน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ได้ดำเนิน มาตรการ เพื่อแก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ในระยะเร่งด่วน และ ตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการแพร่ระบาด โดย ได้ดำเนินการรับซื้อปลา ดังกล่าว ในราคา 15 บาท ต่อกิโลกรัม และมอบหมาย ให้กรมประมง ประสานกับจังหวัด เพื่อตั้งจุดรับซื้อ รวมถึง ดำเนินการตาม(ร่าง) แผนปฏิบัติการแก้ไขปัญหา การแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ พ.ศ. 2567-2568 กรอบ 5 มาตรการ 12 กิจกรรม ระยะเวลาดำเนินการ ตั้งแต่เดือน กรกฎาคม 2567 ถึง เดือนกันยายน 2568 ซึ่ง ได้รับการเห็นชอบ จาก คณะกรรมการ แก้ไขปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ ครั้งที่ 2/2567

ปลาหมอคางดำ
นายกรัฐมนตรี เร่งแก้ปัญหาการแพร่ระบาดของปลาหมอคางดำ

สั่งกรมประมงเร่งตรวจสอบตาม 5 มาตรการ

รวมทั้ง มีการสั่งการให้กรมประมงแต่งตั้งคณะทำงาน ตรวจสอบข้อเท็จจริง เกี่ยวกับการแพร่ระบาดปลาหมอคางดำ เร่งดำเนินการตรวจสอบตามกระบวนการเพื่อหาต้นตอ และหาข้อเท็จจริง

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรีได้ระบุถึง 5 มาตรการ 12 กิจกรรม จาก(ร่าง)แผนปฏิบัติการ ดังกล่าว ประกอบด้วย

  • มาตรการที่ 1 การควบคุมและกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด 4 กิจกรรม เน้นการกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ ด้วยเครื่องมือและวิธีการต่าง ๆ
  • มาตรการที่ 2 การกำจัดปลาหมอคางดำในแหล่งน้ำธรรมชาติ โดยการปล่อยปลาผู้ล่าอย่างต่อเนื่อง 2 กิจกรรม เน้นการประเมินสถานภาพปลาหมอคางดำก่อนปล่อยลูกพันธุ์ปลาผู้ล่า เช่น ปลากะพงขาว
  • มาตรการที่ 3 การนำปลาหมอคางดำที่กำจัดได้ไปใช้ประโยชน์ เน้นการจัดหาแหล่งกระจายและรับซื้อ จัดหาแนวทางการใช้ประโยชน์
  • มาตรการที่ 4 การสำรวจและเฝ้าระวังการแพร่กระจายปลาหมอคางดำในพื้นที่เขตกันชน เน้นการสร้างความพร้อมในการรับมือเมื่อพบการแพร่ระบาดให้กับองค์กรประมงชุมชนท้องถิ่น และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง สำรวจและเฝ้าระวังในแหล่งน้ำที่ยังไม่พบการแพร่ระบาด
  • มาตรการที่ 5 การสร้างความรู้ ความตระหนัก และการมีส่วนร่วมในการกำจัดปลาหมอคางดำ เพื่อประชาสัมพันธ์ให้กับทุกภาคส่วน พร้อมจัดทำคู่มือแนวทางการรับมือ

เร่งโครงการทำให้ประชากรปลาหมอคางดำเป็นหมัน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวเพิ่มเติมว่า พร้อมกันนี้ มีการดำเนินโครงการวิจัยการเหนี่ยวนำชุดโครโมโซม 4n ในปลาหมอคางดำ เพื่อทำให้ประชากรปลาหมอคางดำเป็นหมัน จากนั้น จะปล่อยปลาหมอคางดำพิเศษเหล่านี้ ลงสู่แหล่งน้ำ เพื่อให้ไปผสมพันธุ์กับปลาหมอคางดำปกติ ที่มีชุดโครโมโซม 2 ชุด (2n) ซึ่งจะทำให้เกิด ลูกปลาหมอคางดำที่มีชุดโครโมโซม 3 ชุด (3n) ซึ่งลูกปลากลุ่มนี้จะเป็นหมัน ไม่สามารถขยายพันธุ์ต่อได้

โดยมีแผน ปล่อยพันธุ์ปลาหมอคางดำ 4n ลง สู่แหล่งน้ำธรรมชาติ เพื่อควบคุมการแพร่ระบาด ทยอย ปล่อยอย่างน้อย 250,000 ตัว ภายในระยะเวลา 15 เดือน (กรกฎาคม 2567-กันยายน 2568) ทั้งนี้ จากการดำเนินการการควบคุม และกำจัดปลาหมอคางดำจากแหล่งน้ำธรรมชาติทุกแห่งที่พบการแพร่ระบาด (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2567) ได้มีการกำจัดปลาหมอคางดำไปแล้ว 623,370 กิโลกรัม จำแนกเป็นปลาหมอคางดำที่จับจากแหล่งน้ำธรรมชาติ 325,668 กิโลกรัม และ ปลาหมอคางดำที่จับจากบ่อเพาะเลี้ยง 297,702 กิโลกรัม โดยรัฐบาลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง จะทำการขยายผล เพื่อดำเนินมาตรการดังกล่าวอย่างต่อเนื่อง เพื่อ เร่งกำจัดปลาหมอคางดำให้หมดไปจากระบบนิเวศทางน้ำของไทย

ทำเนียบรัฐบาล

ข่าวที่เกี่ยวข้อง : นายกฯ สั่ง คลัง แบงค์ชาติ เร่งแก้ปัญหา หนี้ครัวเรือน เพื่อฟื้นฟูความเชื่อมั่นด้านเศรษฐกิจของประชาชน