นายกรัฐมนตรี เศรษฐา ทวีสิน สั่งในที่ประชุม ครม.เศรษฐกิจให้กระทรวงการคลัง และธนาคารแห่งประเทศไทย เร่งแก้ปัญหา หนี้ครัวเรือน ถ้าแก้ได้จะช่วยฟื้นฟูความเชื่อมั่นต่อระบบเศรษฐกิจ เล็งหั่นการจ่ายขั้นต่ำบัตรเครดิตเหลือ 5%
นายกฯได้โพสต์ในแพลตฟอร์ม “X” ว่า “ผมเข้าใจดีถึงความท้าทายทางเศรษฐกิจที่เราทุกคนกำลังเผชิญอยู่ ทั้งภาระหนี้สิน ค่าครองชีพที่สูงขึ้น และความกังวลเรื่องรายได้ที่ไม่เพียงพอ ผมขอยืนยันว่า รัฐบาลไม่ได้นิ่งนอนใจ เราได้เร่งออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในระยะ 3 เดือนข้างหน้า”
เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างรอบด้าน ทั้งหนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต หนี้รายย่อย และหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา
“วันนี้ ผมได้สั่งการให้เร่งแก้ไขปัญหาหนี้สินอย่างรอบด้าน ทั้งหนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต หนี้รายย่อย และหนี้กู้ยืมเพื่อการศึกษา รวมถึงเดินหน้าแก้ไขปัญหา หนี้นอกระบบ โดยร่วมมือ กับสถาบันการเงินต่าง ๆ นอกจากนี้ เรายังให้ความสำคัญ กับการช่วยเหลือเกษตรกร การควบคุมคุณภาพสินค้านำเข้า การลดค่าครองชีพ และ การสนับสนุนการท่องเที่ยวช่วง Low Season มาตรการเหล่านี้ จะช่วยฟื้นฟูเศรษฐกิจของเราในระยะสั้น พร้อมกับวางรากฐาน สำหรับการเติบโตที่ยั่งยืนในระยะยาว เราจะทำงานอย่างหนัก เพื่อให้คนไทยทุกคนได้เห็นผลเป็นรูปธรรมโดยเร็ว และจะทยอยออกมาตรการเพิ่มเติมอย่างต่อเนื่อง ไปจนถึงสิ้นปี 2567 ผมเชื่อว่า ด้วยความร่วมมือร่วมใจ เราจะสามารถผ่านพ้นช่วงเวลาที่ท้าทายนี้ไปได้ ขอขอบคุณทุกท่านที่ร่วมกันสร้างความเข้มแข็งให้กับประเทศของเราครับ”
นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผย ภายหลังการประชุมหารือประเด็นเศรษฐกิจ ที่มีนายกรัฐมนตรี เป็นประธาน ว่านายกฯ ได้มีข้อสั่งการในการแก้ปัญหาเศรษฐกิจตกต่ำ เนื่องจาก ยังไม่มีสัญญานฟื้นตัวชัดเจน โดยปัญหาใหญ่ที่สุดมาจาก หนี้สินของภาคครัวเรือน และ SMEs ทั้งนี้แนวทางแก้ไขปัญหาคือหากแก้ไขหนี้ของภาคประชาชน ให้ลดลงได้ และหนี้ภาครัฐเพิ่มขึ้นไม่มากก็น่าจะเป็นแนวทางที่เหมาะสม
นายพิชัยกล่าวว่าที่ประชุมหารือถึงแนวทางการแก้ไขปัญหา หนี้ครัวเรือน และ หนี้ธุรกิจขนาดย่อมทั้งระบบ โดยเฉพาะ หนี้ในกลุ่มที่ต้องจับตามองเป็นพิเศษ (Special Mention : SM) ทั้งหนี้รถยนต์ หนี้บ้าน หนี้บัตรเครดิต และหนี้การใช้จ่ายเพื่อการบริโภค
มีสัญญาณว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง
“ปัญหาหนักอกที่สุด และใหญ่ที่สุดคือหนี้ของประชาชน ถ้าแก้ได้แล้ว ทำให้หนี้รัฐเพิ่มขึ้นอีกหน่อยรัฐบาล ก็รับได้ จึงต้องเร่งแก้หนี้ของประชาชนลดลงให้ได้ นายกฯ ได้รับทราบว่า ณ ปัจจุบันหนี้ครัวเรือนมีอยู่สูงถึง 90% ต่อจีดีพี หรือ 13.64 ล้านล้านบาท และมีหนี้เสียคิดเป็นมูลค่ากว่า 1 ล้านล้านบาท โดยขณะนี้มีสัญญาณว่าสัดส่วนหนี้ครัวเรือนมีแนวโน้มสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง” นายพิชัย กล่าว
สำหรับแนวทาง ในการแก้ไขปัญหาภาระหนี้สินของประชาชนส่วนแรก คือ หนี้บ้าน ล่าสุด ธนาคารอาคารสงเคราะห์ (ธอส.) ได้หาทางแก้ปัญหาหนี้บ้านด้วยการขยายระยะเวลาการผ่อนชำระให้ยาวขึ้นจากเดิม 60-70 ปี ปรับเป็น 80-85 ปี ซึ่งนายกฯ เห็นว่าน่าจะขยายแนวทางนี้ไปยังธนาคารพาณิชย์
จึงสั่งการให้ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ขอความร่วมมือกับธนาคารพาณิชย์ทำมาตรการในลักษณะนี้ ส่วนหนี้รถยนต์ เบื้องต้นจะเน้นไปที่การแก้ไขปัญหาหนี้รถกระบะ และมอเตอร์ไซค์ เนื่องจากเป็นเครื่องมือในการประกอบอาชีพ โดยในส่วนนี้ได้มีการสำรองหนี้สูญไว้แล้ว
ล่าสุดกระทรวงการคลังกำลังพิจารณาแนวทางการดูแล โดยจะหารือกับบริษัทรถยนต์ และตัวแทนขาย เพื่อหาทางช่วยเหลือลูกนี้ที่เป็นหนี้เสียและถูกยึดรถยนต์ ขณะที่หนี้บัตรเครดิตนั้น พบว่าปัจจุบันมีแนวโน้มเพิ่มขึ้นเป็น 2 ล้านใบจากเดิมจำนวน 1.4 ล้านใบ โดยขณะนี้รัฐบาลกำลังหาทางดูแลหนี้กลุ่มดังกล่าวเช่น การจัดทำคลินิกแก้หนี้ เพื่อเจรจาไกล่เกลี่ย และปรับโครงสร้างหนี้
“พร้อมกันนี้นายกฯ ยังขอให้กระทรวงการคลัง ธปท. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้องร่วมกันพิจารณาปรับเงื่อนไขการชำระขั้นต่ำของบัตรเครดิต ซึ่งปัจจุบันอยู่ที่อัตรา 8% ลดลงเหลือ 5% ได้หรือไม่”
นายพิชัย กล่าวว่า ที่ประชุมยังมอบหมายให้กระทรวงการคลัง ไปเร่งพิจารณาการแก้ไขปัญหาหนี้สินของกองทุนเงินให้กู้ยืมเพื่อการศึกษา (กยศ.) โดยเฉพาะการคำนวณยอดหนี้ให้เป็นไปตามกฎหมายฉบับใหม่ ซึ่งปัจจุบันมีจำนวนผู้ที่จ่ายเงินเกินอยู่ที่ 1.7 แสนราย คิดเป็นเงิน 2,100 ล้านบาท ซึ่งรัฐบาลจะรีบคืนเงินกลับไปให้ อีกส่วนคือ 2 ล้านรายกำลังคำนวณยอดหนี้ คิดเป็นเงินกว่า 54,000 ล้านบาท ส่วนปัญหาหนี้นอกระบบ ที่ผ่านมากระทรวงมหาดไทยและกระทรวงการคลัง ได้ขึ้นทะเบียนหนี้นอกระบบ หลักการของรัฐบาลจะพยายามหาทางดึงหนี้เหล่านี้เข้ามาในระบบต่อไป
“กระทรวงการคลังจะกลับไปคิดวิธีต่าง ๆ เข้ามาแก้ไขปัญหาหนี้ทั้งระบบ ขอเวลาอีกสักพัก โดยอาจวิธีการแก้แบบนอกกรอบคาดว่าในเร็ว ๆ นี้จะเห็นชัดเจนขึ้น” รองนายกฯ ระบุ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : อว. เร่งใช้นวัตกรรม ภูมิปัญญาไทย แก้หนี้ครัวเรือน 4 ภาค
