อุตุฯ เผย (22 มิ.ย.67) ทั่วไทยชุ่มฉ่ำ! ฝนตกหนัก เพิ่มขึ้น กทม. ฝนฟ้าคะนอง 60%

ฝนตกหนัก
สภาพอากาศวันที่ 22 มิถุนายน 2567


กรมอุตุนิยมวิทยา เผยวันนี้ (22 มิ.ย.67) มี ฝนตกหนัก ทั่วไทยเพิ่มขึ้น ด้าน “กทม.-ปริมณฑล” ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60 ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

  • “กทม.-ปริมณฑล” ฝนฟ้าคะนองร้อยละ 60
  • ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

วันที่ 22 มิถุนายน 2567 กรมอุตุนิยมวิทยาเผยแพร่พยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง ประกอบกับมีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน และทะเลจีนใต้ตอนกลาง

โดยลักษณะเช่นนี้ ทำให้ประเทศไทยมีฝนเพิ่มขึ้น ในพื้นที่ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ระวังอันตรายจาก ฝนตกหนัก ถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังค่อนข้างแรง โดยทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนอ่าวไทยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดจากฝั่ง

ออกประกาศ 22 มิถุนายน 2567

ภาคเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ ตาก และกำแพงเพชร อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดบึงกาฬ สกลนคร นครพนม มุกดาหาร ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-20 กม./ชม.

ภาคกลาง

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักบางแห่ง บริเวณจังหวัดกาญจนบุรี ราชบุรี และสมุทรสงคราม อุณหภูมิต่ำสุด 25-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 35-37 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ภาคตะวันออก

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดนครนายก ปราจีนบุรี ชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด อุณหภูมิต่ำสุด 25-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันออก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ ส่วนมากบริเวณจังหวัดเพชรบุรี ประจวบคีรีขันธ์ ชุมพร สุราษฎร์ธานี นครศรีธรรมราช พัทลุง และสงขลา อุณหภูมิต่ำสุด 24-27 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งและบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร

ภาคใต้(ฝั่งตะวันตก)

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่ง บริเวณจังหวัดระนอง พังงา ภูเก็ต กระบี่ และตรัง อุณหภูมิต่ำสุด 24-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 20-40 กม./ชม.

ทะเลมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร

กรุงเทพและปริมณฑล

มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 26-28 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 34-36 องศาเซลเซียส ลมตะวันตกเฉียงใต้ ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

ส่วนความคาดหมาย ในช่วงประมาณครึ่งแรกของเดือน ปริมาณและการกระจายของฝนยังคงมีน้อย โดยจะมีฝนร้อยละ 20 – 30 ของพื้นที่เป็นส่วนใหญ่ และจะก่อให้เกิดสภาวะฝนทิ้งช่วงในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะพื้นที่แล้งซ้ำซากนอกเขตชลประทาน

เนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมประเทศไทย ยังคงมีกำลังอ่อน จากนั้นในช่วงครึ่งหลังของเดือนปริมาณและการกระจายของฝนจะมีเพิ่มมากขึ้น และต่อเนื่องกับจะมีฝนหนักถึงหนักมากในบางแห่ง

โดยเฉพาะบริเวณภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก เนื่องจาก มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมบริเวณประเทศไทย จะมีกลับมามีกำลังแรงขึ้น ประกอบกับในบางช่วงจะมีร่องมรสุมพาดผ่านบริเวณตอนบน ของทั้งภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ทำให้สรุปเดือนนี้ คาดว่าปริมาณฝนรวมส่วนใหญ่จะใกล้เคียงค่าปกติ เว้นแต่ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือปริมาณฝนรวมจะน้อยกว่าค่าปกติประมาณร้อยละ 10 สำหรับอุณหภูมิเฉลี่ยยังคงสูงกว่าค่าปกติใกล้

ส่วนข้อควรระวัง

เดือนนี้ มักจะมีพายุหมุนเขตร้อนก่อตัวในมหาสมุทรแปซิฟิกเหนือด้านตะวันตก และเคลื่อนตัวผ่านประเทศฟิลิปปินส์ลงสู่ทะเลจีนใต้ ซึ่งจะส่งผลให้มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน และประเทศไทยมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ประเทศไทยมีฝนตกเพิ่มขึ้น

โดยเฉพาะบริเวณชายฝั่งภาคตะวันออกและภาคใต้ฝั่งตะวันตก จึงขอให้ประชาชนติดตามข่าวพยากรณ์อากาศจากกรมอุตุนิยมวิทยาไว้ด้วย

คาดหมายอากาศทั่วไป ระหว่างวันที่ 21 – 27 มิถุนายน 67

ส่วนช่วงวันที่ 21 – 26 มิ.ย. 67 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีค่อนข้างแรง ประกอบกับจะมีร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือ

ขณะที่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณทะเลจีนใต้ตอนกลางซึ่งมีแนวโน้มมีกำลังแรงขึ้นโดยมีทิศทางการเคลื่อนที่ไปทางเกาะไหหลำ และอ่าวตังเกี๋ย ลักษณะเช่นนี้ทำให้ประเทศไทยจะมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักหลายพื้นที่

ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมาก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน และน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม

ส่วนชาวเรือบริเวณอ่าวไทย และทะเลอันดามันควรเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือ ในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วยตลอดช่วง สำหรับเรือเล็กบริเวณทะเลอันดามันควรงดออกจากฝั่ง ในช่วงวันที่ 21 – 26 มิ.ย. 67

ข่าวที่เกียวข้อง : ททท. ผนึกแอร์ไลน์/รีสอร์ต/ร้านอาหาร แจกโปรทัวร์ น่าน หน้าฝน

: เว็บไซต์ กรมอุตุนิยมวิทยา