เรื่องเล่าของหมาเฝ้าบ้าน มีน้ำใจหรือให้สินบน เส้นบางๆในจรรยาบรรณสื่อ

แรงกระเพื่อมสั่นสะเทือนถึงฐานันดรที่ 4 อย่างสถาบันสื่อมวลชนทันที เมื่อพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล หรือ “บิ๊กโจ๊ก” รองผบ.ตร. ออกมาเปิดประเด็นเรื่องการใช้เงินของตัวเองในการทำงานให้กับราชการ เพื่อบอกปัดเรื่องการเชื่อมโยงใช้เงินจากเว็บพนันออนไลน์ เลยพ่วงประเด็นค่าเลี้ยงดูปูเสื่อ ที่ “บิ๊กโจ๊ก” เรียกว่าค่าน้ำมันรถ ค่าข้าว ให้กับนักข่าว ที่ตามทำข่าวให้ “บิ๊กโจ๊ก” พร้อมระบุชื่อชัดเจนจำนวนหนึ่ง โดยระบุว่าให้เพราะสงสาร นักข่าวเงินเดือนน้อย นักข่าวไม่เคยเรียกร้อง แต่ให้เองเพราะเป็นคนมีน้ำใจ

พร้อมบอกด้วยว่า ที่สโมสรตำรวจ จะจัดข้าวมาเลี้ยงสื่อมวลชนและตำรวจทุกวัน วันละ 200 กล่อง คิดเป็นเงิน เดือนละ 250,000 บาท

ครูบาอาจารย์ด้านสื่อสารมวลชนมักจะสอนเสมอว่า การวางตัวกับแหล่งข่าวต้องมีระยะห่าง “ใกล้ไปก็ร้อน ไกลไปก็หนาว” แปลความง่ายๆก็คือ ใกล้ชิดกันมากเกินไปก็อาจทำให้ข่าวไม่เป็นข่าว เอนเอียงเข้าข้าง อวย ปกป้องแหล่งข่าว หรือโจมตีฝ่ายตรงข้ามแหล่งข่าวได้ ไม่ได้นำเสนอไปตามข้อเท็จจริง แต่ถ้าทำตัวห่างเกินไป ก็จะไม่ได้ข่าว

เรื่องการละเมิดจรรยาบรรณของสื่อ เกิดขึ้นมาตลอดในหลายรูปแบบ และเป็นมานาน มากบ้างน้อยบ้าง เป็นกระแสบ้างไม่เป็นกระแสบ้าง แต่ไม่เคยจางหายไปจากแวดวงสื่อ หนักถึงขั้นโกงเงินเข้ากระเป๋าแบบผิดกฎหมายแล้วถูกจับได้ ถึงขั้นติดคุกติดตะรางก็มีมาแล้ว  

ยิ่งสภาพปัจจุบัน สื่อโดนดิสรัปชันมาหลายปีแล้ว นักข่าวพวกหนึ่งถูกจูงใจให้ออกด้วยเงินก้อนหนึ่ง เพื่อลดขนาดองค์กร ส่วนพวกที่ยังอยู่ก็ถูกลดสวัสดิการ ลดเงินเดือน ต้องปากกัดตีนถีบกันสุดชีวิต เมื่อคนน้อยลงก็จะไปเพิ่มงานให้คนที่อยู่ แถมนักข่าวยังถูกสั่งแกมบังคับให้ต้องหาเงินโฆษณาเข้าบริษัท เพื่อรักษาสถานะหน้าที่การงานของตัวเองเอาไว้ให้ได้ยาวนานที่สุด ต้องทำทุกวิถีทางเพื่อให้คนที่อยู่ข้างหลังอยู่รอดทั้ง ลูก พ่อแม่ สามี ภรรยา ที่นั่งตาปริบๆอยู่บ้าน

แต่สื่อที่ตกอยู่ในสถานการณ์บีบคั้นขนาดนี้ ก็ยังมีสื่อมวลชนที่ดี ทำหน้าที่ด้วยความสื่อสัตย์สุจริต ไม่รับสินบน ไม่รับผลประโยชน์จากแหล่งข่าว ยังคงทำหน้าที่ตรวจสอบนโยบายและการทำงานอย่างเข้มข้นต่อไปไม่ลดละ

มีรุ่นพี่ที่เป็นตำรวจท่านหนึ่งบอกว่า “ไม่มีตำรวจคนไหนไม่หาผลประโยชน์นอกจากรับเงินเดือนอย่างเดียว ถ้ามี ให้มึงเอาตีนมาลูบหน้ากูเลย ยกเว้น 7 วันแรกที่เข้าประจำสถานี เพราะตำรวจรุ่นพี่ยังไม่เอาเงินมาแบ่งให้” ได้ยินประโยคนี้ ผมเกิดความลังเล เพราะยังเชื่อว่าจะเหมาเข่งไม่ได้ มันต้องมีบ้างแหละ

ส่วนเพื่อนที่เป็นตำรวจอีกคน ก็บอกว่า “ตำรวจสีขาวน่ะไม่มีหรอก อย่างมากก็แค่สีเทา” ดูเหมือนจะหมดความหวังกับแวดวงตำรวจเอาเสียทีเดียว

ปัญหาการเข้าถึงความยุติธรรมของประชาชน กระบวนการยุติธรรมเริ่มต้นจากตำรวจ หากบิดเบี้ยว มุ่งแต่จะหาผลประโยชน์ แล้วความยุติธรรมจะจับต้องได้จากตรงไหน แม้แต่ “หอมกลิ่นความยุติธรรม” ยังแทบไม่เคยได้สัมผัส คนที่จะได้รับผลกระทบมากที่สุดก็คือประชาชน การปฏิรูปตำรวจพูดกันมานาน และก็ผลุบๆโผล่ๆ แล้วเงียบหายไปกับสายลมทุกครั้งไป

อ้าวแวะไปแขวะตำรวจเสียแล้ว!!!!

กลับมาที่เรื่องจรรยาบรรณของสื่อกันต่อให้จบ รุ่นพี่ตำรวจคนเดิม ก็เอ่ยขึ้นมาด้วยว่า “นักข่าวก็ตัวดี ไม่มีคนไหนที่ไม่รับเงิน เป็นเหมือนกันหมดทุกที่ จัดงานเลี้ยงวันเกิดให้ตัวเอง หรือหัวหน้าก็ต้องมาและ มาขอเหล้า ขอเงิน บางทีก็ถามมีเม็มเบอร์ที่ไหนบ้าง ไปใช้บริการ ไปเลี้ยงกันแล้ว ก็ให้เก็บบิลในชื่อของเม็มเบอร์”

“นักข่าวมันไม่ได้เป็นแบบนั้นทุกคนนะพี่” ผมเถียง

“แต่ที่เจอมามันเป็นแบบนั้นหมด อย่างน้อยก็ต้องมีค่าข้าว ค่ากาแฟ ค่าน้ำมันรถ” รุ่นพี่ตำรวจสวนมา

แล้วก็ตรงกับที่ “บิ๊กโจ๊ก” ให้ข้อมูลตามที่เสนอข้างต้น

หากสื่อทำข่าวไม่เป็นไปตามข้อเท็จจริง มันก็คือ “การทรยศต่อประชาชน” เพราะอาชีพนี้ เกิดขึ้นมาได้จากการให้ความน่าเชื่อถือ การเคารพในการทำหน้าที่ของสื่อมวลชน จากประชาชน เพื่อให้สังคมอยู่บนพื้นฐานของความถูกต้อง เท่าเทียม และเป็นธรรม รักษาผลประโยชน์ให้ส่วนรวม  จากการทำงานตรวจสอบของสื่อมวลชน

แต่สภาพที่เกิดขึ้น นอกจากนักข่าวจำนวนหนึ่งไม่ทำหน้าที่ข้างต้นแล้ว ยังทำตัวเป็นเซเลป ไร้มารยาท หิวแสง สร้างความดังให้ตัวเอง แต่ไม่สร้างประโยชน์ให้สังคม กลายเป็นนักแสดงในโลกมายาที่พาให้คนกลุ่มหนึ่งหลงตามไปลงเหว ความฟอนเฟะของสังคมไม่ถูกปรับปรุงแก้ไข นอกจากนโยบายไม่ถูกตรวจสอบแล้ว ยังรับผลประโยชน์ในรูปแบบต่างๆจากแหล่งข่าวมันก็จบสิ้นแล้วซึ่ง “จรรยาบรรณสื่อ”

ดูวัวให้ดูหาง ดูนางให้ดูแม่ ถ้าจะดูคุณภาพของนักข่าวให้ดูที่คำถาม คำถามที่มีแต่เร้าอารมณ์ให้แหล่งข่าวโกรธ ฉุนเฉียว แล้วเขียนข่าวแบบเบาปัญญาส่งให้ออฟฟิศ เอาง่ายเข้าว่า เรื่องที่เป็นประโยชน์ต่อส่วนรวมถ้าซับซ้อนเข้าใจยากก็ไม่แตะ ไม่ทำข่าว ไม่ทำการบ้าน ไม่หาความรู้เพื่อตามให้ทันโลก ให้ทันกลโกง นี่ก็เป็นนิสัยถาวรที่ยากจะแก้ของนักข่าวบางคน

มีแต่ข่าวที่ไม่เกิดประโยชน์ต่อสังคมแถมยังตามติดมาด้วยการรับผลประโยชน์ รับงานฝ่ายตรงข้ามมาถามเล่นงานแหล่งข่าว ยั่วโมโห ให้เสียภาพลักษณ์ หากคุมอารมณ์ไม่อยู่ก็ตกเป็นเหยื่อ ถามนำแบบถามเองเออเอง ไม่มีคำตอบก็เอาไปตีความเอง เหล่านี้ล้วนเป็นความเน่าเฟะของการทำข่าวของนักข่าวกลุ่มหนึ่ง

ข่าวดีๆที่มีประโยชน์ต่อสังคม “ถูกฆ่าตัดตอนหมด” เพราะนักข่าวจำพวกนี้ และมักจะเป็นพวกหน้าเดิม ขาประจำ ที่ชิงถามก่อนเสมอ ไม่ถามในรายละอียดของงาน ของการประชุม แถมยังถามตัดประเด็นคนอื่น ช่วยแหล่งข่าวที่เป็นพวกเดียวกันเบี่ยงประเด็นที่กำลังถูกจี้ให้ตอบคำถามสังคม ไม่ทำการบ้าน ไม่ตามประเด็นที่เป็นประโยชน์ในการตรวจสอบ หรือการทำงานของหน่วยงาน “ท่านเหนื่อยไหมคะ” “ทางฝ่ายโน้นเขาบอกว่าท่าน….”  “ท่านไม่ตอบโต้หน่อยเหรอคะ” คำถามปิงปองพวกนี้เล็ดลอดมาให้ได้ยินเสมอ

สังคมจะดีขึ้นได้ นักการเมืองข้าราชการจะปรับเปลี่ยนแนวคิด จะหยุดการทุจริตคอร์รัปชัน หรือลดน้อยถอยลงได้ก็ด้วยการทำหน้าที่ของสื่ออย่างตรงไปตรงมา ตรวจสอบอย่างเข้มข้น สร้างบรรทัดฐานในสังคม ให้รังเกียจคนทุจริต ไม่ยอมรับการโกงทุกรูปแบบ โดยเริ่มจากที่ตัวนักข่าวเอง แหล่งข่าวที่รักชาติบ้านเมือง รักษาผลประโยชน์ของส่วนรวม เห็นความไม่ถูกต้องก็จะส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์มาให้นำเสนอ แต่ถ้าทำตัวเป็นพวกเดียวกัน รับผลประโยชน์กัน ใครมันจะกล้าเอาข้อมูลมาให้

ถ้าสื่อสยบยอมต่อผลประโยชน์ เป็นหมาที่กระโดดงับเศษเนื้อติดกระดูกที่คนโกงชาติบ้านเมือง ทุจริตต่อหน้าที่โยนมาให้ หมาตัวนั้นก็ไม่ควรเป็นหมาเฝ้าบ้าน เป็นหมาที่ไร้เกียรติไร้ศักดิ์ศรี เป็นหมาเสียชาติเกิด ไม่ควรเลี้ยงไว้เป็นอย่างยิ่ง

การเป็นหมาเฝ้าบ้านที่ทำหน้าที่ไล่โจร ไม่ให้มาขโมยของในบ้านจนนาทีสุดท้ายของชีวิต ซื่อสัตย์ต่อเจ้าของซึ่งก็คือประชาชน แม้สุดท้ายจะเป็นหมาที่หิวตายไป ก็ยังดีกว่าหมาอ้วนที่เลียแข้งเลียขาโจร โจรเข้ามาขโมยของในบ้านไป ก็ทำเป็นมองไม่เห็น เราควรจะเรียกหมาตัวนั้นว่าหมาอีกต่อไปไหม หรือจะเรียกว่าตัวที่ชอบคาบไก่สดไปกินในน้ำแทน

ขอเป็นกำลังใจให้เพื่อนๆพี่น้องนักข่าวทุกคนที่ทำหน้าที่ด้วยความซื่อสัตย์ สุจริต ยึดมั่นในจรรยาบรรณ รักในเกียรติในศักดิ์ศรี รักษาผลประโยชน์ให้ส่วนรวม ให้ทำหน้าที่ต่อไป ส่วนใครที่ก้าวเข้าวังวลผลประโยชน์ไปแล้ว ก็วิงวอนให้ก้าวออกมา “หยุดได้แล้ว พอได้แล้ว กลับมาทำหน้าที่ให้สมภาคภูมิกันเถอะ”

ส่งข้อมูลที่เป็นประโยชน์ต่อสังคมมาได้ที่ [email protected]

คนชายขอบ