เปิด 5 ปัญหาที่ยังไม่มีคำตอบ กับการช่วยคนไทยในอิสราเอล

  • ทุกวินาทีมีความหมายต่อชีวิตแรงงานไทย

การเตรียมความพร้อมในการช่วยเหลืออพยพคนไทยออกจากอิสราเอล เป็นเรื่องที่สำคัญก็จริง แต่เรื่องที่สำคัญมากกว่าในขณะนี้คือ การที่จะทำอย่างไรที่จะเข้าไปช่วยเหลือคนไทยที่ยังติดอยู่ในพื้นที่อันตราย ยังออกมาไม่ได้ ซ่อนตัวอยู่ในแคมป์คนงาน ในหลุมหลบภัย ท่ามกลางเสียงปืนและระเบิดที่ไม่รู้ชะตากรรมว่าจะเกิดเหตุร้ายขึ้นในวินาทีใด

จากการที่กระทรวงการต่างประเทศเปิดช่องทางให้ติดต่อเพิ่มขึ้น มีผู้แจ้งเข้ามาจำนวนมากถึงปัญหาต่างๆ ที่พอจะสรุปมาเป็นข้อๆได้ดังนี้

1.ติดต่อญาติไม่ได้ ญาติพี่น้องที่อยู่ในไทยไม่สามารถติดต่อคนไทยที่อยู่ในอิสราเอลได้ ทั้งพ่อ สามี ลูกชาย มีความกังวลสูงเกี่ยวกับความปลอดภัยของคนเหล่านั้น

2.ติดต่อหน่วยราชการไม่ได้ ที่บอกว่ามีเจ้าหน้าที่พร้อมรับสาย 24 ชั่วโมง พอโทรศัพท์เข้าไปจริง กลับไม่มีเจ้าหน้าที่รับโทรศัพท์ ส่วนนี้ควรรีบตรวจสอบว่าเกิดจากระบบ หรือเกิดจากคนที่ทำหน้าที่ เพราะมีแจ้งในลักษณะเดียวกันนี้จำนวนมาก

3.การแจ้งถึงการรอความช่วยเหลือของคนไทยที่ติดอยู่ในพื้นที่อันตราย แต่ไม่มีใครให้คำตอบหรือแจ้งความคืบหน้าได้ว่าจะติดต่อประสานงานกับทางอิสราเอลเข้าไปช่วยเหลืออย่างไรและเมื่อใด ที่สำคัญคือสเบียง อาหาร และน้ำจะเพียงพอให้ดำรงชีวิตได้นานอยู่กี่วัน

4.การไม่ได้รับความเป็นธรรมจากนายจ้างอิสราเอล มีนายจ้างบางคนยังให้คนไทยออกไปทำงานตามปกติทั้งที่ยังมีเสียงปืนและระเบิดอยู่ตลอดเวลา ไม่จ่ายเงินเดือนก.ย.ที่ผ่านมาให้ หรือจ่ายเงินเป็นเช็ค ซึ่งไม่รู้จะเอาไปขึ้นเงินได้จริงหรือไม่ และเมื่อไหร่  ขณะที่นายจ้างถูกยิงเสียชีวิตไปแล้ว แรงงานไทยถูกปล่อยเคว้งคว้างอยู่ในพื้นที่ ไม่มีใครเข้าไปช่วยเหลือดูแล แจ้งให้ทราบแล้วก็เงียบหายไม่มีคำตอบ อยู่กันแบบไร้ความหวัง พึ่งได้แต่สิ่งศักดิ์สิทธิ์

5.อีกปัญหาที่เห็นชัดเจนคือ การให้ข่าวของกระทรวงต่างๆ ไปคนละทิศคนละทาง ไม่มีระบบ ทำให้เกิดความสับสน วิตกกังวล ยิ่งคนไทยที่ติดต่อญาติที่อิสราเอลยังไม่ได้ยิ่งวิตกกังวล กินไม่ได้ นอนไม่หลับ ดังนั้นควรที่จะยึดตัวเลขที่เป็นทางการเท่านั้น ที่ได้รับการยืนยันแน่นอนแล้ว อย่าเอาข้อมูลที่คนนั้นคนนี้แจ้งว่า มารายงานให้ประชาชนทราบ ไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด

สิ่งเหล่านี้สะท้อนให้เห็นว่า การวางระบบติดต่อประสานงาน และการให้ความช่วยเหลือคนไทย ที่ยังตกอยู่ในพื้นที่อันตรายยังมีช่องว่าง ซึ่งเป็นเรื่องที่ต้องทำงานแข่งกับเวลา เพราะทุกเสี้ยววินาทีมีความหมายในการลดความสูญเสียที่จะเกิดขึ้น

ขอเสนอให้มี “วอร์รูม” ที่เป็นศูนย์กลางติดต่อประสานงาน ทำงานกันในทางลับ มีผู้บัญชาการที่มีตัวตนแน่นอน เอาแผนที่มากางกันเลยว่า คนไทยในอิสราเอลที่แจ้งข้อมูลเข้ามาติดอยู่ตรงพื้นที่ไหนบ้าง จำนวนเท่าใด หรือพวกที่ติดต่อไม่ได้ก็ต้องนำข้อมูลแรงงานมาเช็คดูเลยว่า มีคนไทยทำงานกับบริษัทไหนบ้าง อยู่ตรงจุดไหน ที่คนงานเข้าไปทำงานแต่ยังติดต่อไม่ได้

กางแผนที่แล้วขึ้นสีเขียว คือปลอดภัยแล้ว สีเหลืองคือเฝ้าระวัง และสีแดงคือยังอยู่ในโซนอันตราย เพื่อจะได้ติดต่อประสานงานกับทางอิสราเอล มีข้อมูลให้เขารับรู้ และเข้าไปช่วยเหลือได้ทันท่วงที หรืออย่างน้อยๆคนไทยก็จะได้รู้ว่าภาครัฐเตรียมการเข้าไปช่วยเหลืออย่างเป็นระบบ ไม่ใช่ให้นอนรอลูกกระสุนปืนอย่างเดียวอย่างไม่รู้ชะตากรรม

เฉพาะการประชุมศูนย์สถานการณ์ฉุกเฉินจากสถานการณ์ความไม่สงบในอิสราเอลคงยังไม่เพียงพอ แค่การรับทราบรายงานจากเอกอัครราชทูตไทยประจำเทลอาวีฟ ในแต่ละวัน แต่กลับไม่มีทางออกอย่างมีความหวังให้คนไทยที่ติดอยู่ในพื้นที่อันตรายว่าจะได้รับการเข้าไปช่วยเหลืออย่างไร และเมื่อใด

บอกได้แต่เพียงว่าต้องรอให้อิสราเอลเข้าไปเคลียร์พื้นที่ก่อน รอๆๆๆๆ รอทุกอย่าง รอน่านฟ้าเปิด แต่บางประเทศเข้าไปรับคนของเขากลับไปแล้ว เกิดอะไรขึ้น  และจะมีคำตอบให้ประชาชนคนไทยอย่างไร ที่บอกว่ายังไม่มีประเทศใดเข้าไปรับคนของเขา เรื่องนี้ไม่จริง มีข่าวและภาพยืนยันชัดเจน

สถานการณ์ยังไม่รู้ว่าจะคลี่คลายเมื่อใด ชีวิตของอีกหลายคนยังแขวนอยู่บนเส้นด้าย รัฐบาลมือใหม่ ยังไงเสียขอให้ฟังเสียงประชาชนที่ประสบปัญหาอยู่ในขณะนี้ นั่นคือความเป็นความตาย และทุกชีวิตมีความหมายเท่ากัน ต้องกระตือรือร้น จริงจัง และเต็มที่กับงานนี้ แรงงานไทยแม้ไม่ใช่พวกวีไอพี แต่พวกเขาคือ คนที่มีบุญคุณต่อประเทศชาติ หาเงินเข้าประเทศ ยามยากลำบากก็ต้องช่วยเหลือให้เต็มที่อย่างเป็นระบบ และมีประสิทธิภาพ

การเตรียมเครื่องบิน การแพทย์ปล่อยให้เป็นหน้าที่ ของทหาร ของแพทย์ไป  พวกผู้ใหญ่ทั้งหลายจะต้องระดมสมอง ระดมกำลัง มาสร้างระบบการช่วยเหลือที่ชัดเจน และมีประสิทธิภาพกว่าที่ทำกันอยู่ทุกวันนี้

คนชายขอบ

ทางการติดตาม The Journalist Club