“เศรษฐา” ตรวจตลาด รับฟังปัญหาค่าครองชีพประชาชน

“เศรษฐา” ลงพื้นที่ ตลาดเมืองไทยภัทร รับฟังปัญหาค่าครองชีพประชาชน เผยประชุม ครม.นัดแรก เตรียมเดินหน้า “ลดราคาพลังงาน”

  • ย้ำทุกภาคส่วนทุกคนต้องได้รับการดูแล
  • เบื้องต้นขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ รอตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง

วันที่ 31 สิงหาคม 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ตลาดเมืองไทยภัทร ย่านสุทธิสาร กรุงเทพมหานคร เพื่อพบปะพี่น้องประชาชนและรับฟังเสียงสะท้อนปัญหาค่าครองชีพ ซึ่งนายกรัฐมนตรีเดินทางด้วยรถไฟฟ้า MRT จากสถานีเพชรบุรีตัดใหม่ ไปยังสถานีสุทธิสาร โดยมีพี่น้องประชาชนพ่อค้าแม่ค้าจำนวนมากให้การต้อนรับและขอถ่ายรูปอย่างใกล้ชิดตลอดการลงพื้นที่ พร้อมทั้งให้กำลังใจในการทำงานเดินหน้าแก้ไขปัญหาประเทศ

โดย นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่า วันนี้มาติดตามปัญหาค่าครองชีพของพี่น้องประชาชน รวมไปถึงค่าไฟฟ้า น้ำมันและแก๊ส ทำให้ต้นทุนในการประกอบอาชีพสูงขึ้น ซึ่งต้องแก้ปัญหาที่รากฐานนั่นคือราคาพลังงาน โดยเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566) ได้พูดคุยกับผู้เกี่ยวข้องแล้วถึงมาตรการที่ชัดเจน ดังนั้นในวันที่ประชุม ครม.นัดแรกก็จะมีการประกาศมาตรการแก้ปัญหา แต่เบื้องต้นขอให้ทุกฝ่ายใจเย็นๆ รอตัวเลขที่ชัดเจนอีกครั้ง

สำหรับการลดราคาค่าไฟจะลดได้ราคาเท่าใดนั้น นายกรัฐมนตรี กล่าวว่าต้องขอพิจารณาอีกครั้ง แต่เข้าใจโจทย์ว่าต้องการกันประมาณเท่าใด จะพยายามอย่างสุดความสามารถที่จะทำให้ได้ แต่ไม่อยากบอกตัวเลขไปก่อนเดี่ยวมีความผิดเพี้ยนแล้วจะมาต่อว่ากันได้ ขอให้ใจเย็นก่อน

ผู้สื่อข่าวถามถึงเรื่องปัญหารถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินในชั่วโมงเร่งด่วนไม่เพียงพอ นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ได้พูดคุยกับเจ้าหน้าที่ระดับสูง ทราบว่ากำลังเร่งสั่งซื้อตู้รถไฟฟ้าเพิ่ม และผู้โดยสารก็ได้สะท้อนว่าการใช้บริการรถไฟฟ้ามีความสะดวกสบาย ราคาเหมาะสม แต่ในช่วงเวลาเร่งด่วนก็อาจมีไม่เพียงพอ จะต้องไปพิจารณาเพิ่มตู้ขบวนอีก

ผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายรถไฟฟ้า 20 ตลอดสายของพรรคเพื่อไทย  นายกรัฐมนตรีตอบว่า แม้จะเป็นนโยบายของพรรคเพื่อไทย แต่เมื่อเราไม่ได้เป็นรัฐบาลพรรคเดียว  การมีพรรคร่วมรัฐบาลอีก 10 พรรคต้องไปพิจารณาในภาพรวมทั้งหมด รวมไปถึงเรื่องงบประมาณโดยรวมด้วย  

ผู้สื่อข่าวถามถึงนโยบายเงินดิจิทัล 10,000 บาท  นายกรัฐมนตรีตอบว่า ในช่วงต้นสัปดาห์ที่ผ่านมา ได้เชิญหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเข้ามารับฟังความคิดเห็น และได้พิจารณาในเรื่องรายละเอียดคิดว่าไม่น่าจะมีประเด็นอะไร แต่วันไหนจะสามารถออกโครงการได้จะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง ซึ่งคาดว่าน่าจะอยู่ในช่วงไตรมาสที่ 1 ของปี 2567 อย่างแน่นอน

นายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ขณะเดินพบปะพูดคุยกับพี่น้องประชาชนได้พบกับนายตำรวจหลายท่าน ซึ่งเมื่อวันที่ 30 สิงหาคม 2566 ได้พูดคุยกับนายสุพัฒนพงษ์ พันธ์มีเชาว์ รักษาการรองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน ซึ่งดูแลปัญหาหนี้สินของประชาชนในช่วงรัฐบาลที่ผ่านมา ได้ฝากเรื่องปัญหาหนี้สินของนายตำรวจชั้นประทวน ซึ่งก็ได้มีการสอบถามนายตำรวจเรื่องนี้ ซึ่งนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ สส.เชียงใหม่ พรรคเพื่อไทย ซึ่งร่วมคณะมาด้วยก็รับทราบ และจะเป็นมาตรการสำคัญในการช่วยเหลือนายตำรวจชั้นผู้น้อยด้วย

“ขณะนี้พี่น้องประชาชนที่มีรายได้น้อย ทุกภาคส่วนทุกคน ต้องได้รับการดูแล ซึ่งในช่วงเช้าได้พูดคุยกับทาง ธ.ก.ส. เพื่อดูเรื่องพักหนี้เกษตรกร ซึ่งกำลังดูอยู่ว่าจะสามารถทำได้ในจำนวนเงินเท่าใด แต่ทั้งนี้จะเป็นการทำเพื่อดูแลพักหนี้ชั่วคราว เพื่อให้พี่น้องเกษตรกรสามารถฟื้นฟูได้ก่อน ซึ่งปัญหาหนี้สินเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วง รวมถึงปัญหาค่าใช้จ่ายที่สูงขึ้น” นายกรัฐมนตรีกล่าว