

IATA ถกสมาชิกทั่วโลกเร่งเดินหน้ายกระดับความปลอดภัยการบิน 3 ประเด็นใหญ่ “มาตรฐานโลก-วัฒนธรรม-นวัตกรรม” โชว์ “IOSA” ลดอุบัติ ดึง“100CEO” รุกสร้างวัฒนธรรมปลอดภัย แนะใช้ GADM- Turbulence Aware
วิลลี วอลช์ ผู้อำนวยการทั่วไป สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ (Internation Aviation Air Transport Association :IATA/ไออาต้า) เปิดเผยว่า ในการประชุมระดับโลกด้านความปลอดภัยและการปฏิบัติการของ IATA ประจำปี 2567 (IATA World Safety and Operations Conference 2024) ที่เมืองมาร์ราเกช ประเทศโมร็อกโก เมื่อวันที่ 1 ตุลาคม2567 มุ่งเน้นยกระดับอุตสาหกรรมการบินทั่วโลก 3 ประเด็นหลัก ได้แก่ ประเด็นที่ 1 มาตรฐานระดับโลก ประเด็นที่ 2 วัฒนธรรมด้านความปลอดภัย ประเด็นที่ 3 นวัตกรรมการใช้ข้อมูลอย่างต่อเนื่องเพื่อปรับปรุงประสิทธิภาพการทำงานเมื่อเผชิญกับความท้าทายในการปฏิบัติงานที่เพิ่มมากขึ้น ความขัดแย้งในภูมิภาคจำนวนมาก และภัยคุกคามด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์ที่เปลี่ยนแปลงไป
สถิติปี 2566 มีนักเดินทางทั่วโลกใช้บริการบินกว่า 4,400 ล้านคน ดังนั้นมาตรฐานความปลอดภัยจึงเป็นสิ่งสำคัญที่สุดในการบิน ถึงแม้สภาพแวดล้อมการทำงานจะซับซ้อนมากขึ้นก็ตาม เพื่อก้าวหน้าต้องให้ความสำคัญกับมาตรฐานระดับโลก โดยนำไปปฏิบัติและปรับปรุงอย่างต่อเนื่องพร้อมกับปลูกฝังวัฒนธรรมด้านความปลอดภัยเน้นเรื่องการทำงานร่วมกันและความเป็นผู้นำที่แข็งแกร่ง ไออาต้าต้องใช้ประโยชน์จากความสามารถในการวิเคราะห์ข้อมูลเติบโตอย่างรวดเร็ว มาใช้ทำความเข้าใจเรื่องความเสี่ยงและผลักดันนวัตกรรมให้ดีขึ้น สิ่งเหล่านี้คือกลยุทธ์ที่จะทำให้อุตสาหกรรมการบินโลกประสบความสำเร็จด้านความปลอดภัยมากยิ่งขึ้น
@ย้ำระบบ IOSAช่วยลดสถิติอุบัติเหตุแอร์ไลน์สโลก
ในเวทีการประชุมของไออาต้า รอบใหม่นี้ ได้สรุปแต่ละประเด็นไว้ดังนี้
ประเด็นที่ 1 มาตรฐานระดับโลก และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดมีความสำคัญต่อการรักษาและขับเคลื่อนการปรับปรุงด้านความปลอดภัย ทางไออาต้าได้สรุปตัวอย่างที่สำคัญ 2 กรณี ได้แก่
กรณีที่ 1 การเปลี่ยนผ่านไปสู่ IOSA ตามความเสี่ยง : การตรวจสอบความปลอดภัยในการปฏิบัติงานของ IATA (IOSA) เป็นมาตรฐานความปลอดภัยที่สายการบินทั่วโลกให้การยอมรับนำไปดำเนินงาน โดยมีประวัติการสนับสนุนการดำเนินงานที่ปลอดภัยมายาวนานกว่า 20 ปี อัตราการเกิดอุบัติเหตุเฉลี่ยของสายการบินที่ใช้มาตรฐาน IOSA ระหว่างปี 2562-2566 อยู่ที่ 0.84 ต่อล้านภาคส่วน เปรียบเทียบแล้วดีกว่าค่าเฉลี่ยของสายการบินที่ไม่ใช้ IOSA มีถึง 2.24 ต่อล้านภาคส่วน หรือเกือบ 3 เท่า รัฐบาลประเทศต่าง ๆ กำลังนำ IOSA มาใช้กำกับดูแลความปลอดภัยทางการบินมากขึ้น
การเปลี่ยนผ่านไปสู่การตรวจสอบโดยระบบ IOSA ตามความเสี่ยง ซึ่งมุ่งเน้นจัดการความเสี่ยงเฉพาะที่เกี่ยวข้องกับสายการบินแต่ละแห่ง โดยช่วยเสริมประสิทธิภาพการตรวจสอบให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้น ตั้งแต่ปี 2566 เป็นต้นมาเริ่มต้นดำเนินการตรวจสอบตามความเสี่ยงได้ดีขึ้นทั้งหมด 63ครั้ง ภายในปี 2567 จะเปลี่ยนแปลงทั้งหมดจะแล้วเสร็จ
กรณีที่ 2 การเผยแพร่รายงานอุบัติเหตุทางการบินตรงเวลา : รายงานการสอบสวนอุบัติเหตุเป็นทรัพยากรด้านความปลอดภัยที่สำคัญ ช่วยให้ภาคอุตสาหกรรมสามารถเรียนรู้จากการทำความเข้าใจสาเหตุหลักของอุบัติเหตุได้ต่อเนื่อง เมื่อปี 2561 ไออาต้ามีรายงานความปลอดภัยประจำปีฉบับล่าสุดถึงการเน้นย้ำว่ามีการเผยแพร่รายงานอุบัติเหตุฉบับสุดท้ายเพียง 48% ตามข้อกำหนดในภาคผนวก 13 ของอนุสัญญาชิคาโก ช่องว่างนี้จะต้องแก้ไข ดังนั้นจึงขอเรียกร้องให้รัฐบาลทุกแห่งให้ความสำคัญกับการปฏิบัติตามภาระผูกพันด้านความปลอดภัยสำคัญนี้ ตามเอกสารการทำงานและแผนพัฒนาของไออาต้า 5 ประการ จะต้องได้รับการสนับสนุนจากประเทศต่าง ๆ เพื่อส่งต่อไปยังการประชุมสมัชชาองค์การการบินพลเรือนระหว่างประเทศ (ICAO) ในปี 2568
@CEOสายการบินร่วมวัฒนธรรมปลอดภัยแล้วกว่า100ราย
ประเด็นที่ 2 วัฒนธรรมความปลอดภัย ซึ่งมีบทบาทสำคัญสร้างความแข็งแกร่งทางการบิน ซึ่งผู้นำระดับสูงต้องสร้างสภาพแวดล้อมให้พนักงานรู้สึกพร้อมหยิบยกปัญหาความปลอดภัยขึ้นมาหารือ โดยมีกระบวนการชัดเจนและเข้าถึงได้ ซึ่งจะแก้ไขปัญหาได้อย่างรวดเร็วและมีประสิทธิภาพ รวมทั้งการส่งเสริมเปิดกว้างให้เกิดการแบ่งปันแนวทางปรับปรุงด้านความปลอดภัยทั้งอุตสาหกรรมเพื่อความก้าวหน้าในอนาคต
ขณะนี้ทางไออาต้าได้เสริมสร้างวัฒนธรรมความปลอดภัยของการบินให้แข็งแกร่งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับพัฒนา
เรื่องที่ 1 กฎบัตรความเป็นผู้นำด้านความปลอดภัย : เน้นความคิดริเริ่มส่งเสริมวัฒนธรรมความปลอดภัยด้วยการมุ่งมั่นหลักการความเป็นผู้นำด้านความปลอดภัยพื้นฐาน 8 ประการ กฎบัตรนี้ให้คำมั่นกับผู้นำการบินร่วมกันส่งเสริมวัฒนธรรมเน้นความปลอดภัยทั่วทั้งองค์กร มีซีอีโอสายการบินมุ่งมั่นใช้กฎบัตรนี้เพิ่มขึ้นถึง 100 รายแล้ว
เรื่องที่ 2 IATA Connect เป็นแพลตฟอร์มและแอปออนไลน์ช่วยเพิ่มความร่วมมือและการกำกับดูแลด้านความปลอดภัย โดยเป็นศูนย์กลางของสายการบิน ผู้ตรวจสอบ และหน่วยงานกำกับดูแลให้เข้าถึงข้อมูลและแนวทางที่เกี่ยวข้องกับความปลอดภัยที่สำคัญได้อย่างง่ายดาย รวมถึงเอกสาร IOSA, Safety Issue Hub และ Safety Connect (ฟอรัมสนทนาเกี่ยวกับปัญหาความปลอดภัย) ข้อมูล ดังกล่าวช่วยลดความซับซ้อนการแบ่งปันข้อมูล รองรับการจัดการความเสี่ยงด้วยข้อมูลเชิงลึกที่ขับเคลื่อนด้วยข้อมูล และส่งเสริมการทำงานร่วมกัน
@ปลุกการบินใช้นวัตกรรมGADM- Turbulence Aware

ประเด็นที่ 3 นวัตกรรมข้อมูลเพื่อการปรับปรุงอย่างต่อเนื่อง เพราะข้อมูลมีความสำคัญกับการปรับปรุงด้านความปลอดภัยทางการบิน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อข้อมูลขนาดใหญ่ การเรียนรู้ของเครื่องจักร และความสามารถของปัญญาประดิษฐ์ได้รับการพัฒนา ด้วย โปรแกรม การจัดการข้อมูลการบินระดับโลก (GADM) ไออาต้าจึงมีบทบาทนำข้อมูลที่ได้รับการสนับสนุนจากอุตสาหกรรมที่เพิ่มมากขึ้น โดยวิเคราะห์ข้อมูลจากแหล่งต่าง ๆ เช่น Flight Data eXchange (FDX) และ Incident Data eXchange(IDX) ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญซึ่งจะช่วยให้สายการบินและหน่วยงานกำกับดูแลสามารถตัดสินใจด้วยความรู้รอบด้านของไออาต้า เช่น
“การใช้ข้อมูล GADM ” สามารถระบุพื้นที่ใหม่การสูญเสียสัญญาณ GPS กลายเป็นความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ซึ่งจะให้ข้อมูลเชิงลึกที่สำคัญแก่ผู้เชี่ยวชาญด้านความปลอดภัยในอุตสาหกรรม ช่วยให้พวกเขาสามารถจัดการกับความเสี่ยงที่เกี่ยวข้องกับเรื่องนี้ได้
“แพลตฟอร์ม Turbulence Aware” จะแบ่งปันข้อมูลแบบเรียลไทม์ ทำให้ผู้บังคับเครื่องบินและผู้ควบคุมเครื่องบินสามารถลดความเสี่ยงที่เกิดจากความปั่นป่วนในเที่ยวบินได้
นายวอลล์ กล่าวว่า โดยการวิเคราะห์และแบ่งปันข้อมูลจากหลายแหล่งและเที่ยวบินหลายล้านเที่ยว ข้อมูลมีบทบาทเพิ่มสูงขึ้นมาก ซึ่งจะไม่สามารถตรวจจับได้ด้วยวิธีอื่น และจากการวิเคราะห์นี้ไออาต้าค้นพบนวัตกรรมที่จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและประสิทธิภาพไปอีกขั้น และมีส่วนสนับสนุนเป้าหมายลดปล่อยคาร์บอนสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593 ได้ด้วย
เรื่องโดย #เพ็ญรุ่งใยสามเสน #gurutourza
สมาคมขนส่งทางอากาศระหว่างประเทศ
ข่าวที่เกี่ยวข้อง : IATA รุกจัด WSOC 2024 รับมือความปลอดภัย/ปฏิบัติการบินโลก