“ปานปรีย์”เรียกร้อง ให้โลกลงทุน ในหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า มากขึ้น

“ปานปรีย์” รองนายกฯและรมว.ต่างประเทศ​ เรียกร้องให้โลกลงทุนมากขึ้นเพื่อส่งเสริมหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ป้องกัน เตรียมพร้อม และตอบสนองต่อโรคระบาด

ผู้สื่อข่าว The Journalist Club รายงานจากนครนิวยอร์ก สหรัฐอเมริกาว่า นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ เข้าร่วมการประชุมระดับสูงของสมัชชาสหประชาชาติว่าด้วยการป้องกัน การเตรียมความพร้อม และการตอบสนองต่อการระบาดใหญ่ (Pandemic Prevention, Preparedness and Response: PPPR) ในช่วงสัปดาห์การประชุมระดับสูงของการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ สมัยที่ 78 ณ สำนักงานใหญ่สหประชาชาติ นครนิวยอร์ก

สำหรับ โรคโควิด-19 เป็นหนึ่งใน “วิกฤตที่มีหลากหลายมิติ” ที่ร้ายแรงที่สุดในยุคปัจจุบัน และกล่าวถึงแนวทางสำคัญ 3 ประการที่โลกต้องเร่งดำเนินการในลำดับ เพื่อยกระดับ PPPR ดังนี้ 1.การลงทุนที่เพิ่มขึ้นในระบบหลักประกันสุขภาพถ้วนหน้า ทั้งในช่วงเวลาปกติและภาวะฉุกเฉิน เป็นสิ่งจำเป็น เพื่อให้แน่ใจว่าระบบสุขภาพจะสามารถรับมือกับการเปลี่ยนแปลงได้ มีมาตรการคุ้มครองทางสังคมความยุติธรรมทางสังคม รวมทั้งความเท่าเทียมด้านสุขภาพ

2.ประชาคมระหว่างประเทศควรเร่งปฏิรูปโครงสร้างทางสถาปัตยกรรมด้านสาธารณสุขของโลกให้มีความเท่าเทียม ครอบคลุมทุกกลุ่มประชากร และมีความสอดคล้องกับข้อริเริ่มอื่น ๆ ผ่านการเสริมสร้างขีดความสามารถ ความร่วมมือที่ใกล้ชิดยิ่งขึ้นระหว่างภาครัฐและภาคเอกชน เพื่อนำไปสู่การเปลี่ยนแปลงระบบสุขภาพดิจิทัล การเจรจาตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยการระบาดใหญ่ และการปรับแก้กฎอนามัยระหว่างประเทศ ค.ศ. 2005 ภายใต้องค์การอนามัยโลก

3. จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องเพิ่มความร่วมมือด้านการพัฒนาสำหรับ PPPR ซึ่งจำเป็นต่อความมั่นคงด้านสุขภาพของโลก ด้วยวิธีการที่เป็นนวัตกรรม รวมถึงผ่านการแบ่งปันสิทธิในทรัพย์สินทางปัญญาที่เกี่ยวกับสุขภาพ

ผ่านการดำเนินงานระหว่างประเทศภายใต้ข้อริเริ่ม COVID-19 Technology Access Pool (C-TAP)

สำหรับการประชุมครั้งนี้มีผู้แทนระดับสูงเข้าร่วมจำนวนมาก อาทิ ผู้นำประเทศ ผู้แทนระดับรัฐมนตรี ผู้สังเกตการณ์สมัชชาสหประชาชาติและระบบสหประชาชาติ องค์กรพัฒนาเอกชน และองค์กรด้านสุขภาพ โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อเพิ่มแรงสนับสนุนทางการเมืองในงานเกี่ยวกับการเสริมสร้างขีดความสามารถของโลกในเรื่อง PPPR รวมทั้งการเจรจาตราสารระหว่างประเทศว่าด้วยการระบาดใหญ่ในกรอบองค์การอนามัยโลก

“การประชุมครั้งนี้เป็นเวทีสำหรับประเทศไทยในการยืนยันความมุ่งมั่นในการทำงานร่วมกับประชาคมระหว่างประเทศในการยกระดับ PPPR ของโลก นอกจากนี้ ที่ประชุมฯ ยังได้รับรองปฏิญญาทางการเมืองว่าด้วย PPPR ซึ่งสะท้อนให้เห็นว่า ประชาคมระหว่างประเทศมีความสมานฉันท์และพร้อมที่จะทำงานร่วมกันบนพื้นฐานของความเป็นหุ้นส่วนและความร่วมมือระหว่างกันเพื่อประโยชน์สาธารณะ” นายปานปรีย์กล่าว