หนุ่มสาวทัวร์ ชี้ปีใหม่เศรษฐีเที่ยวไทย-ต่างประเทศคึกคัก

หนุ่มสาวทัวร์ชี้คนไทยเที่ยวส่งท้ายปี 66 รับปี 67 กลุ่มคนรวยกำลังพรีเมี่ยมมาแรง ชอบ “เที่ยวในประเทศ” ทั้งภาคเหนือ ภาคกลาง ภาคใต้ ส่วน “แพกเกจทัวร์ต่างประเทศ” ญี่ปุ่นราคาแพงแซงยุโรป คนยังแห่ซื้อเกลี้ยง ปี’67 เฝ้าระวังนโยบายหนี้สาธารณะกระทบท่องเที่ยว

  • หนุ่มสาวทัวร์ ยันปีใหม่คนไทยกลุ่มพรีเมี่ยมเฮเที่ยวไทย 3 ภาค เที่ยวนอกแถบเอเชียขายดี
  • ญี่ปุ่นขายเกลี้ยงราคาแพงกว่ายุโรปคนก็ซื้อ เกาหลี ไต้หวัน ฮ่องกง ยังครองใจตลาดคนไทย
  • ปี’67 ทัวร์ไทยกลุ่มมีตั้งหวั่นหนี้สาธารณะพุ่ง กระทบตลาดท่องเที่ยวภาพรวม

นายโชติช่วง ศูรางกูร รองกรรมการผู้จัดการ บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์ จำกัด เปิดเผยว่า สถานการณ์ตลาดคนไทยเดินทางท่องเที่ยวตั้งแต่ธันวาคม 2566 เป็นต้นไป ได้ออกแบบโปรแกรมหรือแพกเกจเที่ยวในและต่างประเทศไว้รองรับ ตลาดในประเทศนิยมซื้อแพกเกจทัวร์ 3 วัน 2 คืน อันดับต้น ๆ คือ “ภาคเหนือ” ชวนสัมผัสอากาศหนาวเที่ยวทุ่งดอกบัวตอง ดอยแม่อูคอ จ.แม่ฮ่องสอน อุทยานศรีเทพ มรดกโลกทางวัฒนธรรมแห่งใหม่ของไทย ผนวกสูดโอโซนเขาค้อ จ.เพชรบูรณ์ แต่ละพื้นที่จะเน้นเรื่องราวดึงดูดความสนใจ รวมทั้งผลิตแพกเกจขาย “เที่ยวประเทศเพื่อนบ้าน” ช่วงรอยต่อด่านชายแดนอย่าง “ภาคใต้” เบตง จ.ยะลา สู่ปีนัง มาเลเซีย หรืออุบลราชธานี สู่เวียงจันทน์ หลวงพระบางและแหล่งท่องเที่ยวทางตอนใต้ของ สปป.ลาว

ปัจจุบันพฤติกรรมนักท่องเที่ยวไทยกลุ่มที่มีกำลังซื้อจะเป็นนักเดินทางระดับพรีเมี่ยม มีทั้งเจ้าของกิจการ และคนรวยอยู่แล้ว เพราะตอนนี้ราคาตั๋วเครื่องบินขยับสูงขึ้นกว่าปกติ 30 % โดยเฉพาะ “คนไทยท่องเที่ยวต่างประเทศ” อย่างญี่ปุ่น ปลายปีนี้ราคาตั๋วสูงกว่า 40,000 บาท แพงกว่าไปยุโรปแต่คนไทยกลุ่มพรีเมี่ยมก็ซื้อจึงตอกย้ำถึงตลาดที่มีเงินพร้อมเดินทางตลอดทั้งในและต่างประเทศ ส่งผลดีกับ บริษัท หนุ่มสาว ทัวร์ จำกัด ได้รับเลือกจากกลุ่มนี้ให้จัดทริปสร้างประสบการณ์ที่ดีขึ้นทั้งห้องพักโรงแรม รถยนต์ระหว่างท่องเที่ยวเป็นเฉพาะกลุ่มต้องสะดวกสบายมากขึ้น ในฐานะบริษัทจัดนำเที่ยวมืออาชีพสามารถปรับสินค้าได้ตรงตามใจผู้บริโภค เช่น กลุ่มครอบครัว ผู้สูงอายุ ต้องการบริโภคอาหารดี เดินทางสะดวก ก็วางแผนเคลียร์ทัวร์ก่อนเดินทาง สอบถามมัคคุเทศก์เพื่อศึกษาข้อมูลแล้วนำมาออกแบบให้เหมาะกับแต่ละกลุ่มได้อย่างมีคุณภาพ

นายโชติช่วง กล่าวว่า วางกลยุทธ์ขายท่องเที่ยวรับเทศกาลเคาท์ดาวน์ แพกเกจเที่ยวเมืองไทยยอดนิยม ได้แก่ บ้านรักไทย จ.แม่ฮ่องสอน บ้านอิต่อง จ.กาญจบุรี ส่วน “ต่างประเทศ” เส้นทางหลักคือญี่ปุ่น ทั้งเดินทางอิสระโดยลำพัง(F.I.T.) และเดินทางเป็นหมู่คณะธันวาคม 2566 ได้ขยายเวลาในโปรแกรมทัวร์ค่เพิ่มขึ้นเฉลี่ย 69,000-72,000 บาท/คน เพื่อใช้ตั๋วเครื่องบินให้คุ้มค่า ราคาแพกเกจจะสูงกว่าปกติ ตอนนี้ยอดขายเต็มทัวร์ญี่ปุ่นเต็มไปแล้วเส้นทางโตเกียว โทคุ กิวชู ส่วนเกาหลี มีแพกเกจ 4 วัน 3 คืน ยังเหลืออยู่บ้าง ราคา 17,000 บาท/คน เนื่องจากคนไทยบางกลุ่มกังวลกลัวไปติดด่านเข้าเมืองเที่ยวไม่ได้ แต่สภาพตามจริงแล้วเซลิบริตี้ไทยที่ไปเกาหลีส่วนใหญ่ได้เข้าประเทศทั้งหมด เพียงแค่มีรายละเอียดเล็กน้อยตรงเจ้าหน้าที่ตรวจคนเข้าเมืองเรียกสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม แต่ก็ไม่ได้มีปัญหาพอมีกระแสข่าวคนเกิดความกังวลจึงยกเลิกไปบ้าง

ขณะที่โปรแกรมทัวร์ ไต้หวัน และฮ่องกง จะเริ่มปลายปี 2566 กับต้นปี 2567 คนไทยนิยมไปขอพรโชคลาภและ“ยุโรป” จะนิยมไปสัมผัสอากาศหนาวในกลุ่มประเทศสแกนดิเนเวีย อังกฤษ/สก็อตแลนด์ ส่วนฝรั่งเศสเริ่มลดลงบ้าง

นายโชติช่วงกล่าวว่า ปี 2567 แนวโน้มคนไทยกลุ่มพรีเมี่ยมจะเดินทางต่างประเทศต่างเฝ้าระวังเรื่องนโยบายแจกเงินดิจิทัลของรัฐบาล เกรงจะส่งผลกระทบต่อระบบหนี้สาธารณะ ยังคงกังวลจึงต้องการเก็บเงินไว้ก่อนเพื่อรอดูสถานการณ์จากการประชุมร่วมกับหลายองค์กรวิเคราะห์การเดินทางแล้วองค์กรและคนไทยที่มีเงินต่างให้ความสำคัญกับเรื่อง หนี้สาธารณะเกรงปัญหาเรื่องการกู้เงินจากต่างประเทศจะเพิ่มขึ้น กับเงินบาทอ่อนค่าลง เงินเฟ้อ ซึ่งแต่ละหน่วยงานจะต้องนำมาใช้เป็นฐานคำนวณงบประมาณใช้เงินด้วย

เรื่องโดย…#เพ็ญรุ่ง ใยสามเสน #gurutourza, www.facebook.com/penroongyaisamsaen