ดาวโจนส์ ปิดบวก 130 จุด เชื่อมั่นเพิ่มดอกเบี้ยลดครึ่งหลังปีนี้

ดาวโจนส์ ปิดบวก 130 จุด เชื่อมั่นเพิ่มดอกเบี้ยลดครึ่งหลังปีนี้ มีแรงซื้อเข้ามาในหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีและหุ้นเติบโต ท่ามกลางความเชื่อมั่นที่เพิ่มขึ้นของนักลงทุนเกี่ยวกับแนวโน้มที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงในปีนี้

  • นักลงทุนซื้อหุ้นต่อ หลังประธานเฟดย้ำมีโอกาสลดดอกเบี้ยปีนี้
  • ตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกทรงตัว แสดงถึงเศรษฐกิจไม่ร้อนแรง
  • หุ้นกลุ่มที่อ่อนไหวต่ออัตราดอกเบี้ยพุ่งขึ้น หนุนตลาดบวกต่อ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดตลาดวันที่ 7 มี.ค.ที่ 38,791.35 จุด เพิ่มขึ้น 130.30 จุด หรือ +0.34%, ดัชนี S&P500 ปิดที่ 5,157.36 จุด เพิ่มขึ้น 52.60 จุด หรือ +1.03% ส่วนดัชนีแนสแด็ก คแมโพซิส ปิดพุ่งแรวที่ 16,273.38 จุด เพิ่มขึ้น 241.83 จุด หรือ +1.51%

ดัชนีหุ้นกลุ่มเซมิคอนดักเตอร์ที่ตลาดฟิลาเดลเฟียพุ่งขึ้น 3.36% ปิดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เนื่องจากนักลงทุนได้พากันเข้าซื้อหุ้นของบริษัทผลิตชิป ซึ่งคาดว่าจะได้ประโยชน์จากความต้องการที่เกี่ยวกับเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI)

หุ้นกลุ่มบริการด้านการสื่อสารและกลุ่มไอทีปรับตัวขึ้นมากที่สุด โดยปิดพุ่งขึ้น 1.84% และ 1.89% ตามลำดับ

หุ้นเติบโตรายใหญ่ช่วยหนุนตลาด อาทิ หุ้นเมตา พุ่งขึ้น 3.2% และหุ้นอินวิเดีย พุ่ง 4.5%

หุ้นโครเกอร์ บริษัทค้าปลีกสินค้าอุปโภคบริโภครายใหญ่ พุ่งขึ้น 9.8% หลังคาดการณ์ยอดขายและกำไรประจำปีสูงกว่าที่ตลาดคาดไว้

ทั้งนี้ ในการกล่าวสุนทรพจน์วันที่ 2 นายเจอโรม พาวเวล ประธานธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) เปิดเผยต่อคณะกรรมการของวุฒิสภาสหรัฐว่า เฟดใกล้ที่จะเชื่อมั่นว่า เงินเฟ้อกำลังลดลงสู่ระดับเป้าหมายที่ 2% ซึ่งจะทำให้การปรับลดอัตราดอกเบี้ยมีความเป็นไปได้

ส่วผลให้นักลงทุนคาดว่า เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงครั้งแรกในเดือนมิ.ย.ปีนี้

นอกจากนี้ การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจและตลาดแรงงานที่ชะลอตัวลง ยังช่วยหนุนแนวโน้มการปรับลดอัตราดอกเบี้ยด้วย โดยกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยตัวเลขผู้ยื่นขอสวัสดิการว่างงานครั้งแรกอยู่ที่ระดับ 217,000 รายในสัปดาห์ที่แล้ว ไม่เปลี่ยนแปลงจากสัปดาห์ก่อนหน้านี้ และสอดคล้องกับตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์

นักลงทุนจะรอดูการเปิดเผยข้อมูลจ้างงานนอกภาคเกษตรเดือนก.พ.ของสหรัฐในวันศุกร์นี้ เพื่อบ่งชี้รายละเอียดเกี่ยวกับภาวะตลาดแรงงาน