ดัชนีดาวโจนส์ เพิ่มกว่า 30 จุด หลัง อิหร่าน-อิสราเอล ลดความแข็งกร้าวลง นักลงทุนขายสินทรัพย์ปลอดภัย ทอง และ พันธบัตรกลับมาซื้อ สินทรัพย์เสี่ยง โดยเฉพาะหุ้น ใน ตลาดหลักทรัพย์สหรัฐ ที่ราคาลดลง ในช่วงก่อนหน้า หลังทั้ง อิสราเอล-อิหร่าน ลดระดับท่าทีลง
เมื่อเวลา ประมาณ 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 38,020.43 จุดเพิ่มขึ้น 34.03 จุด หรือ 0.09%
ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 4,972.45 จุด เพิ่มขึ้น 5.22 จุด หรือ0.11%
ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 15,279.58 จุด ลดลง 2.43 จุด หรือ 0.02%
นักลงทุนจับตา ทิศทาง ดอกเบี้ย ของธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) โดยเจ้าหน้าที่เฟด เริ่มเข้าสู่ ช่วงงดเว้นการแสดงความเห็น เกี่ยวกับ นโยบายการเงิน (Blackout Period)
ก่อนที่เฟด จะจัดการประชุมกำหนดนโยบายการเงิน (FOMC) ในวันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค. เพื่อป้องกัน ไม่ให้สาธารณชน ตีความว่า เป็นการบ่งชี้การดำเนินการด้านอัตราดอกเบี้ย ของเฟด ในการประชุมนโยบายการเงินที่จะมาถึง
ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุน ให้น้ำหนัก 96.1% ที่เฟด จะคงอัตราดอกเบี้ย ที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุม วันที่ 30 เม.ย.-1 พ.ค.
โดยจะปรับลด อัตราดอกเบี้ย ครั้งแรก 0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุม เดือนก.ย.
ทั้งนี้ นักลงทุน เลื่อนคาดการณ์ การปรับลด อัตราดอกเบี้ย ครั้งแรก ในปีนี้ ของเฟด เป็นเดือน ก.ย.
จากเดิม ที่คาดไว้ ในเดือนมิ.ย. หลัง นาย เจอโรม พาวเวล ประธานเฟด แสดงความกังวล เกี่ยวกับ เงินเฟ้อสหรัฐ ที่ยังคงอยู่ ในระดับสูง
นักลงทุน จับตา การเปิดเผย ดัชนีราคา การใช้จ่าย เพื่อการบริโภค ส่วนบุคคล (PCE) ในวันศุกร์ ซึ่งจะบ่งชี้ ทิศทาง อัตราดอกเบี้ยสหรัฐ
โดย นักวิเคราะห์ คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่ง รวมหมวดอาหาร และ พลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค.
เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.5% ในเดือน ก.พ. ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวม หมวดอาหาร และพลังงาน คาดว่า ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบ รายปี จากระดับ 2.8% ในเดือน ก.พ.
นอกจากนี้ นักลงทุน จับตา การเปิดเผย ผลประกอบการ ของ บริษัท ขนาดใหญ่ หลายแห่ง ในสัปดาห์นี้
ได้แก่ เทสลา อิงค์, อินเทล คอร์ป, ไมโครซอฟท์ คอร์ป, แอปเปิ้ล อิงค์, อัลฟาเบท อิงค์ และเมตา แพลตฟอร์มส์ อิงค์
