คลัง เผยครม.อนุมัติต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอน-จดจำนองอสังหาริมทรัพย์ ยาวอีก 1 ปี ชี้มีผลทำรัฐสูญรายได้กว่า 5 พันล้านบาท
- ชี้มีผลช่วยกระตุ้นจีดีพีได้ราวๆ 0.5%
- เผยลดค่าจดทะเบียนโอนจากเดิม 2% เหลือ 1% ค่าจดจำนองเดิม 1% เหลือ 0.01%
- ลั่นธุรกิจภาคอสังหาฯ มีซัพพลายเชนเชื่อมเกี่ยวจำนวนมาก ทำให้มีผลช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจได้
นายพรชัย ฐีระเวช ผู้อำนวยการสำนักงานเศรษฐกิจการคลัง (สศค.) เปิดเผยว่า วันนี้ (26 ธ.ค.66) คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติให้ดำเนินการต่ออายุมาตรการลดค่าธรรมเนียมจดทะเบียนสิทธิ และนิติกรรมสำหรับที่อยู่อาศัย ปี 2567 โดยมีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนและบรรเทาภาระให้แก่ประชาชนที่ต้องการมีที่อยู่อาศัยเป็นของตนเอง รวมถึงส่งเสริมการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ เพื่อสร้างความมั่นคงในทางเศรษฐกิจ ช่วยรักษาระดับกิจกรรมทางเศรษฐกิจในภาคอสังหาริมทรัพย์และธุรกิจที่เกี่ยวเนื่องกับภาคอสังหาริมทรัพย์
ทั้งนี้ สำหรับมาตรการลดค่าธรรมเนียมการโอนและจดจำนองอสังหาริมทรัพย์ ดังกล่าว จะยื่นตามเกณฑ์เดียวกับปีที่ผ่านมา โดยจะลดค่าจดทะเบียนโอนอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 2% เหลือที่ 1% และค่าจดทะเบียนการจำนองอสังหาริมทรัพย์จากเดิม 1% เหลือ 0.01% (เฉพาะการโอนและจดจำนองในคราวเดียวกัน) สำหรับการซื้อขายที่อยู่อาศัย ได้แก่ บ้านเดี่ยว บ้านแฝด บ้านแถว หรืออาคารพาณิชย์ และห้องชุด (ทั้งบ้านมือ 1 และมือ 2) เฉพาะที่มีราคาซื้อขายและราคาประเมินทุนทรัพย์ไม่เกิน 3 ล้านบาท รวมถึงมีวงเงินจำนองไม่เกิน 3 ล้านบาท ต่อสัญญา โดยไม่รวมถึงกรณีการขายเฉพาะส่วน โดยเริ่มมีผลตั้งแต่วันที่กฎหมายมีผลใช้บังคับ ยาวไปถึง 31 ธ.ค.67 ซึ่งขณะนี้อยู่ระหว่างรอทางกระทรวงมหาดไทย ยื่นเรื่องต่อไป
“เบื้องต้นจากมาตรการดังกล่าว คาดจะทำให้ภาครัฐสูญเสียรายได้กว่า 5,000 ล้านบาท แต่ในส่วนนี้ก็จะมีส่วนช่วยสนับสนุนให้เศรษฐกิจขยายตัวได้เพิ่มประมาณ 0.5% เนื่องจาก มาตรการด้านอสังหาริมทรัพย์นี้ จะมีส่วนช่วยสนับสนุนการซื้อขายอสังหาริมทรัพย์ ซึ่งเป็นภาคธุรกิจขนาดใหญ่ ที่มีซัพพลายเชนเชื่อมโยงอีกจำนวนมาก อาทิ ธุรกิจวัสดุก่อสร้าง รับเหมาก่อสร้าง มีการจ้างงานในระบบ ซึ่งถือว่ามีผลต่อระบบเศรษฐกิจโดยรวม” นายพรชัย กล่าว
