ดาวโจนส์ ร่วงแรงกว่า 630 จุด เศรษฐกิจสหรัฐไตรมาส 1 โตต่ำคาด

ดาวโจนส์ ร่วงแรงกว่า 630 จุด นักลงทุนผิดหวังตัวเลขเศรษฐกิจไตรมาสแรกต่ำคาด-สวนทางเงินเฟ้อพุ่ง

  • นักลงทุนเทขายหุ้นออกมา กังวลอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง
  • ตลาดเริ่มมองเฟดไม่ลดอัตราดอกเบี้ยในเดือน ก.ย. หลังความผันผวนเพิ่มขึ้น

เมื่อเวลาประมาณ 22.10 น. ตามเวลาประเทศไทย ดัชนีอุตสาหกรรม ดาวโจนส์ เคลื่อนไหวที่ระดับ 37,823.44 จุดลดลงแรง 637.48 จุด หรือ 1.66% ดัชนีเอสแอนด์พี 500 เคลื่อนไหวที่ 5,004.90 จุด ลดลง 66.73 จุด หรือ 1.32% ขณะที่ดัชนีแนสแด็ก คอมโพซิส อยู่ที่ 15,452.66 จุด ลดลง 260.09 จุด หรือ 1.66%

กระทรวงพาณิชย์สหรัฐเปิดเผยตัวเลขประมาณการครั้งที่ 1 สำหรับผลิตภัณฑ์มวลรวมภายในประเทศ (GDP) ประจำไตรมาส 1/2567 ในวันนี้ โดยระบุว่า เศรษฐกิจสหรัฐขยายตัว 1.6% ในไตรมาสดังกล่าว ต่ำกว่าตัวเลขคาดการณ์ของนักวิเคราะห์ที่ระดับ 2.4% โดยได้รับผลกระทบจากการชะลอตัวของการใช้จ่ายของผู้บริโภค

นอกจากนี้ กระทรวงพาณิชย์เปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้บริโภค (CPI) ดีดตัวขึ้น 3.4% ในไตรมาส 1/2567 สูงกว่าระดับ 1.8% ของไตรมาส 4/2566 ทำให้นักลงทุนกังวลเกี่ยวกับเงินเฟ้อที่พุ่งสูง ซึ่งจะเป็นปัจจัยทำให้ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) ตรึงอัตราดอกเบี้ยในระดับสูงยาวนานกว่าที่คาดไว้

อัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐยังคงดีดตัวขึ้นต่อเนื่อง โดยอัตราผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลสหรัฐอายุ10 ปีพุ่งขึ้นทะลุระดับ 4.7% ในวันนี้ แตะระดับสูงสุดในรอบกว่า 5 เดือน

นักลงทุนเริ่มให้น้ำหนักใกล้เคียงกันต่อคาดการณ์ที่ว่า ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดหรือคงอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนก.ย. หลังเศรษฐกิจสหรัฐขยายตัวต่ำกว่าคาดในไตรมาส 1/2567 ท่ามกลางเงินเฟ้อที่พุ่งสูง

ล่าสุด FedWatch Tool ของ CME Group บ่งชี้ว่า นักลงทุนให้น้ำหนัก 44.9% ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ย0.25% สู่ระดับ 5.00-5.25% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนัก 46.4% เมื่อวานนี้

นอกจากนี้ นักลงทุนให้น้ำหนัก 40.8% ที่เฟดจะคงอัตราดอกเบี้ยที่ระดับ 5.25-5.50% ในการประชุมวันที่ 17-18 ก.ย. หลังจากที่ให้น้ำหนักเพียง 30.2% เมื่อวานนี้

ตลาดยังได้แรงกดดันจากราคาหุ้นของเมตาดิ่งลงกว่า 15% หลังนักลงทุนผิดหวังต่อตัวเลขคาดการณ์ยอดขายในไตรมาส 2/2567 การเปิดเผยรายงานผลประกอบการของเมตาสร้างความวิตกต่อนักลงทุนก่อนการเปิดเผยผลประกอบการของบริษัทอื่นๆ ในกลุ่มเทคโนโลยี โดยบริษัท ไมโครซอฟท์ คอร์ป และอัลฟาเบท อิงค์ มีกำหนดเปิดเผยผลประกอบการหลังจากปิดตลาดวันนี้

นักลงทุนจับตาดัชนีราคาการใช้จ่ายเพื่อการบริโภคส่วนบุคคล (PCE) ในวันพรุ่งนี้ นักวิเคราะห์คาดการณ์ว่า ดัชนี PCE ทั่วไป (Headline PCE) ซึ่งรวมหมวดอาหารและพลังงาน ปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปีจากระดับ 2.5% ในเดือนก.พ. เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE ทั่วไป ปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.3% เช่นกันในเดือน ก.พ.

ส่วนดัชนี PCE พื้นฐาน (Core PCE) ซึ่งไม่นับรวมหมวดอาหารและพลังงาน คาดว่าปรับตัวขึ้น 2.6% ในเดือนมี.ค. เมื่อเทียบรายปี จากระดับ 2.8% ในเดือนก.พ.เมื่อเทียบรายเดือน คาดว่าดัชนี PCE พื้นฐานปรับตัวขึ้น 0.3% ในเดือนมี.ค. จากระดับ 0.3% เช่นกันในเดือน ก.พ.

ดัชนีดาวโจนส์ (DJI)

ดาวโจนส์ปิดลบ 42 จุด กังวลต้นทุนสูง อัตราผลตอบแทนพันธบัตรพุ่ง