ขยับแล้ว! สนามบินสุวรรณภูมิ ขึ้นอันดับ 58 สนามบินดีที่สุดในโลก

สนามบินสุวรรณภูมิ ทะยานขึ้นสู่อันดับ 58 สนามบินดีที่สุดในโลก ด้านสนามบินดอนเมืองติดอันดับ 10 ของสนามบินสำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก

นายกีรติ กิจมานะวัฒน์ กรรมการผู้อำนวยการใหญ่ บริษัท ท่าอากาศยานไทย จำกัด (มหาชน) (AOT) กล่าวว่า ตามที่รัฐบาล ได้ตั้งเป้าหมาย การผลักดันท่าอากาศยานของไทย ให้ติดอันดับ 1 ใน 50 สนามบินดีที่สุดในโลก ภายใน 1 ปี และติดอันดับ 1 ใน 20 ของโลกภายใน 5 ปีนั้น

เป้าหมาย ก็เพื่อให้เกิดการขับเคลื่อนนโยบาย ในการพัฒนาอุตสาหกรรมการบิน ของประเทศไทย ส่งเสริมการค้า การลงทุน และการท่องเที่ยว สร้างรายได้ฟื้นฟูเศรษฐกิจ ของประเทศ

อย่างไรก็ตาม ในปี 2024 นี้ เว็บไซต์ Skytrax ซึ่งเป็นเว็บไซต์ จัดอันดับการให้บริการของสนามบิน ได้ประกาศ สนามบินดีที่สุดในโลก (World’s Best Airport) ประจำปี 2024 ได้ประกาศ ออกมาว่า สนามบินสุวรรณภูมิ ได้ติดอันดับที่ 58 ขยับขึ้นจากอันดับที่ 68 โดยขึ้นมา 10 อันดับจากปี 2023

ขณะที่ สนามบินดอนเมือง ติดอันดับ 10 ของสนามบิน สำหรับสายการบินต้นทุนต่ำที่ดีที่สุดในโลก (World’s Best Low-Cost Airline Terminals)

ซึ่งผลการจัดอันดับดังกล่าว มาจาก การสำรวจ ความคิดเห็น ของผู้เดินทาง ด้วยเครื่องบินทั่วโลก ภายใต้การสำรวจ ที่ชื่อว่า World’s Airport Survey จัดทำโดยบริษัท Skytrax

ซึ่งเป็นบริษัทวิจัยและที่ปรึกษาด้านการบินชั้นนำ ของประเทศอังกฤษ ที่มีความเชี่ยวชาญ ในการวิเคราะห์คุณภาพการให้บริการ ของสายการบินและสนามบินทั่วโลก โดยคำนึงถึง หมวดการให้บริการสนามบิน เช่น การเดินทาง สภาพแวดล้อมและการออกแบบ เจ้าหน้าที่สนามบิน สิ่งอำนวยความสะดวก และการให้บริการ เป็นต้น

นายกีรติ กล่าวต่อว่า ทอท. มีความมุ่งมั่น ที่จะพัฒนาและผลักดัน ให้บริการท่าอากาศยาน เพื่อให้ท่าอากาศยานในความรับผิดชอบของ AOT เป็นท่าอากาศยานที่มีมาตรฐานสากล มีความสะดวกสบาย ผู้โดยสารได้รับการบริการที่รวดเร็ว และปลอดภัย

โดยอาคารเทียบเครื่องบินหลังที่ 1 (Satellite 1: SAT-1) สนามบินสุวรรณภูมิ ได้รับการประเมิน 4 ดาว จากด้านสถาปัตยกรรม ความสะอาด บรรยากาศโดยรวม และสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ ตลอดจน มีการนำเทคโนโลยี และระบบอัตโนมัติมาอำนวยความสะดวกให้ผู้โดยสาร

อีกทั้งได้รับความร่วมมือจากสายการบินในการใช้เครื่องเช็กอินด้วยตนเองอัตโนมัติ (Common Use Self Service: CUSS) เครื่องโหลดกระเป๋าสัมภาระอัตโนมัติ (Common Use Bag Drop: CUBD)

ระบบประตูทางออกขึ้นเครื่องอัตโนมัติ (Self-Boarding Gate: SBG) และระบบตรวจสอบยืนยันตัวตนผู้โดยสาร (Passenger Validation System: PVS)

นอกจากนี้ สนามบินยังได้มีการปรับปรุงกระบวนการ ณ จุดตรวจค้น และเพิ่มกำลังเจ้าหน้าที่ ณ จุดตรวจหนังสือเดินทาง ทำให้สามารถลดระยะเวลารอของผู้ใช้บริการลง โดยระยะเวลาการใช้บริการในกระบวนการผู้โดยสารขาเข้าระหว่างประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 26 นาทีต่อคน (เป้าหมายที่ AOT กำหนดไว้ที่ 40 นาทีต่อคน)

และกระบวนการผู้โดยสารขาออกระหว่างประเทศในภาพรวมเฉลี่ย 37 นาทีต่อคน (เป้าหมายที่ AOT กำหนดไว้ที่ 55 นาทีต่อคน)

ขณะที่กระบวนการ ผู้โดยสารขาเข้าภายในประเทศ ในภาพรวมเฉลี่ย 15 นาทีต่อคน (เป้าหมายที่ ทอท. กำหนดไว้ ที่ 35 นาทีต่อคน) และกระบวนการ ผู้โดยสารขาออกภายในประเทศ ในภาพรวมเฉลี่ย 25 นาทีต่อคน (เป้าหมายที่ ทอท. กำหนดไว้ที่ 40 นาทีต่อคน)

สำหรับ ทดม. มีให้บริการ ด้วยการใช้เทคโนโลยี ทำให้การเดินทางปลอดภัย และสะดวกรวดเร็วยิ่งขึ้น ตั้งแต่ระบบ CUSS CUBD SBG และ PVS ทำให้ผู้โดยสาร ไม่ต้องรอคิวนาน ตามคอนเซ็ป “Fast and Hassle Free Airport”

นายกฯสั่งลุย!ยกระดับสนามบินสุวรรณภูมิ รับนักท่องเที่ยว 150 ล้านคน