6 เทรนด์คริปโตที่น่าจับตามองในปี2567

 อุตสาหกรรมคริปโตกำลังเผชิญหน้ากับความไม่แน่นอนในช่วงที่ผ่านมา  แต่ขณะเดียวกันได้เห็นพัฒนาที่สะท้อนแนวโน้มเชิงบวกของระบบนิเวศสินทรัพย์ดิจิทัล

  •  จากขอ BTC ETF   13 รายการ ในปี 2567
  • ส่งสัญญาณการเปลี่ยนแปลงในทางที่ดีขึ้น
  • นักลงทุนหน้าใหม่เพิ่มขึ้นอย่างมากมาย 

นายเจี่ยซวน ชัว ผู้เชี่ยวชาญจากทีม Binance Research  กล่าวว่า จากการที่เราทำการสังเกตการพัฒนาและเติบโตอย่างยั่งยืนของอุตสาหกรรมคริปโตในปี 2023 ที่ผ่านมา รู้สึกตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งกับสิ่งที่กำลังจะเกิดขึ้นในปี 2024  ทั้งในเรื่องของ Bitcoin halving การเปลี่ยนแปลงของอุปทานเหรียญ stablecoin หรือการฟื้นตัวของ On-chain metrics โดยสิ่งเหล่านี้เป็นเพียงแค่ส่วนหนึ่งของปัจจัยที่จะมากำหนดความเป็นไปของอุตสาหกรรมในปีนี้ ซึ่งการที่สถาบันทางการเงิน นักลงทุน และผู้ใช้สามารถตามทันแนวโน้มและทิศทางต่างๆ ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะช่วยให้พวกเขาสามารถคว้าโอกาสในการเติบโตไว้ได้ 

การฟื้นตัวของ Bitcoin:  จากการตรวจสอบของสำนักงานคณะกรรมการกำกับหลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ของสหรัฐอเมริกาเกี่ยวกับคำขอ BTC ETF จำนวน 13 รายการ มีกำหนดจะเกิดขึ้นในปี 2567 ซึ่งสะท้อนให้เห็นถึงสัญญาณการเปลี่ยนแปลงของกระบวนทัศน์ภาพรวมด้านกฎระเบียบที่อาจเกิดขึ้น 

ทั้งนี้ การมาถึงของ Bitcoin halving หรือการลดจำนวนลงครึ่งหนึ่งของ Bitcoin ในทุกๆ สี่ปี ที่จะเกิดขึ้นในเดือนเม.ย.2567นี้ ได้กลายเป็นอีกหนึ่งเหตุการณ์สำคัญที่จะทำให้สถานะของ Bitcoin ในฐานะ “ทองคำดิจิทัล” และสินทรัพย์ที่ปลอดภัยแข็งแกร่งขึ้น   นอกจากนี้ยังมีหลากหลายนวัตกรรม ที่มาช่วยเพิ่มสีสันให้กับระบบนิเวศของ Bitcoin  ถือเป็นการฟื้นตัวที่ขึ้นอย่างต่อเนื่อง 

อุปทานของ Stablecoin : อุปทานของ Stablecoin หรือสินทรัพย์ดิจิทัลที่มีความมั่นคงสูง ทำหน้าที่เป็นมาตรวัดเงินทุนที่มีอยู่สำหรับการลงทุนในสินทรัพย์คริปโต ซึ่งสะท้อนถึงแนวโน้มอุปสงค์ของคริปโต  ที่อาจเกิดขึ้นในช่วงเวลาใดก็ตาม โดยในไตรมาส 4 ปี 2566  การเปลี่ยนแปลงสุทธิรายไตรมาสในอุปทานของ Stablecoin ห้าอันดับแรกตามมูลค่าตลาดมีทิศทางไปในเชิงบวก นับเป็นตัวชี้วัดที่จะมีความสำคัญอย่างยิ่งในอนาคต เพื่อเป็นเกณฑ์พิจารณาว่าการเปลี่ยนแปลงนี้เกิดขึ้นเพียงชั่วคราว หรือเป็นแนวโน้มขาขึ้นที่ยั่งยืน

ปริมาณการซื้อขาย NFT : ปริมาณการซื้อขาย NFT ได้แตะระดับต่ำสุดในรอบปีอย่างต่อเนื่องนับตั้งแต่เดือนก.พ.-ก.ย.ุ 66 ไปแล้ว และได้มีแนวโน้มการกลับตัวเกิดขึ้นในเดือนต.ค. 66  โดย NFT ที่ได้รับความนิยมมากที่สุด คือ Bitcoin NFT ด้วยปริมาณการซื้อขายมากกว่า 375 ล้านดอลลาร์ แซงหน้าแม้กระทั่ง Ethereum  สะท้อนให้เห็นถึงความเชื่อมั่นของตลาดที่เปลี่ยนแปลงไป รวมถึงยังถือเป็นการส่งสัญญาณการฟื้นตัวหลังจากที่ราคา NFT ลดลงเป็นเวลาหลายเดือน โดยการติดตามแนวโน้มเหล่านี้ในปี2567 อาจเป็นอีกหนึ่งกุญแจสำคัญในการประเมินความยั่งยืนของตลาดด้วยเช่นกัน

ค่าธรรมเนียมการดำเนินงาน :เมื่ออุตสาหกรรมคริปโตเติบโตเต็มที่และโปรโตคอลต่างๆ ก้าวไปสู่ยุคของการสร้างรายได้ ค่าธรรมเนียมที่สร้างโดยโครงการคริปโตชั้นนำได้ถูกรวมเข้ามาเป็นหนึ่งในเกณฑ์ชี้วัดด้วยเช่นกัน  โดยการที่ค่าธรรมเนียมเติบโตขึ้นอย่างยั่งยืนนั้นได้ตอกย้ำให้เห็นถึงความเป็นไปได้เชิงโมเดลทางธุรกิจ รวมถึงยังกระตุ้นให้เกิดการติดตามเพื่อเสาะหาอัตราค่าธรรมเนียมที่เหมาะสมที่สุดในปีหน้าอีกด้วย

Layer 1s :   Ethereum ยังคงครองอันดับหนึ่งของแพลตฟอร์มสัญญาอัจฉริยะ (Smart contract) โดยมีโซลูชันทางเลือกอื่นๆ ในเลเยอร์ 1 ที่กำลังก้าวเข้ามาท้าทายตำแหน่งนี้ ไม่ว่าจะเป็น Solana ที่มีมูลค่าตลาดเพิ่มขึ้นถึง 56% หรือ Toncoin ที่ประสบความสำเร็จอย่างยิ่งด้วยการจับมือกับ Telegram นอกจากนี้ ยังมีการพัฒนาที่สำคัญอื่นๆ ที่เกิดขึ้นในแพลตฟอร์มเลเยอร์ 1 ทั้งการที่ Ethereum ได้ถอน ETH ที่ฝากไว้ค้ำประกัน ในการเปิดตัว opBNB ของ BNB Chain (BNB Chain’s opBNB) ซึ่งกำลังตั้งตารอการพัฒนาใหม่ๆ ที่จะเกิดขึ้นในปี2567 ซึ่งจะกำหนดภูมิทัศน์ของคริปโตต่อไป

การมาถึงของ SocialFi :  การคาดหวังถึงศักยภาพทางสังคมของแอปพลิเคชันบล็อกเชนได้เกิดขึ้นให้เห็นมานานแล้ว ซึ่งสิ่งนี้ได้ส่งผลให้เกิดการบรรจบกันของ DeFi และโซเชียลมีเดีย จนกลายเป็น SocialFi หรือ Social Finance ที่แปลว่า “การเงินเพื่อสังคม” ในปี 2024 SocialFi จะยิ่งได้รับความสนใจมากขึ้น พร้อมทั้งจะยังเป็นตัวกำหนดรูปแบบการโต้ตอบทางโซเชียลบน Web3 ในอนาคตอีกด้วย

ความคาดหวังในปี 2024 : มุมมองเชิงบวกได้กระจายไปทั่วอุตสาหกรรมคริปโต ด้วยบรรยากาศแห่งความตื่นเต้นและนักลงทุนหน้าใหม่ที่มาเข้าร่วมเพิ่มขึ้นอย่างมากมาย โดยการที่ผู้เล่นในอุตสาหกรรมคอยติดตามเกณฑ์ชี้วัดและเหตุการณ์ต่างๆ ที่จะเกิดขึ้นจากนี้ถือเป็นเรื่องสำคัญที่จะทำให้สามารถกำหนดทิศทางภูมิทัศน์ของโลกคริปโตในปี 2024 ต่อไป