“เศรษฐา” พบบีโอไอ เร่งทำทันทีผลักดันส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ

“เศรษฐา” พบบีโอไอ เร่งทำทันที ส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศ โครงการใดที่มีประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม จะผลักดันอย่างต่อเนื่อง

  • เตรียมการเดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา
  • วันที่ 18-24 กันยายน 2566 กับบีโอไอ

วันที่ 7 กันยายน 2566 นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง นายปานปรีย์ พหิทธานุกร ​​รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายจักรพงษ์ แสงมณี ​​รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการต่างประเทศ นายแพทย์พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นางสาวสรัสนันท์  อรรณนพพร สมาชิกสภาผู้แทนราษฎรจังหวัดขอนแก่น พรรคเพื่อไทย และคณะทำงานด้านนโยบายการต่างประเทศ พรรคเพื่อไทย หารือกับนายนฤตม์ เทอดสถีรศักดิ์ เลขาธิการคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (บีโอไอ) เกี่ยวกับการเดินหน้าการส่งเสริมการลงทุนในประเทศไทย

นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า  การลงทุนจากต่างประเทศและการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในไทย (FDI) ต้องใช้ระยะเวลานาน  หากไม่เริ่มดำเนินการในวันนี้ จะเห็นผลต่อระบบเศรษฐกิจไทยในอีก  2-3 ปี จึงต้องเร่งทำงานทันที  พร้อมทั้งต้องเร่งเตรียมการเดินทางไปโรดโชว์ที่สหรัฐอเมริกา วันที่ 18-24 กันยายน 2566 กับบีโอไอ ซึ่งต้องพบปะกับนักธุรกิจจากหลากหลายประเทศ  วันนี้ทางบีโอไอเข้ามาให้ข้อมูลเพื่อจะได้เร่งเดินหน้าผลักดันและส่งเสริมการลงทุนในไทย  ยืนยันว่าโครงการใดที่มีประโยชน์ต่อประเทศในภาพรวม จะผลักดันให้เกิดการลงทุนอย่างต่อเนื่อง รวมถึงโครงการที่อยู่ระหว่างการรอพิจารณาจะรับฟังข้อมูลต่อเนื่องเพื่อทำงานร่วมกันต่อไป

สำหรับภาพรวมการขอรับการส่งเสริมการลงทุนจากต่างประเทศในไทย  ในปี 2561 – มิถุนายน 2566 ที่ผ่านมากลุ่มอุตสาหกรรม 3 อันดับแรก เป็นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์  ปิโตรเคมี  ยานยนต์และชิ้นส่วน มูลค่ารวม 1.8 ล้านล้านบาท  โดยพบว่าประเทศญี่ปุ่น มีการขยายการลงทุนเพิ่มต่อเนื่องในกลุ่มบริษัทเดิม และจีนมีการขยายลงทุนต่อเนื่องในกลุ่มบริษัทใหม่  ส่วนภาพรวมการลงทุนในไทย  ยังมีโครงการที่รอการพิจารณาโดยคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน หรือบอร์ดบีโอไอ รวม 6 โครงการ มูลค่ารวม 29,862 ล้านบาท และโครงการที่รอพิจารณาตาม พ.ร.บ.การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันฯ กว่า 21 โครงการ