Apple Holidy Gift Guide เปิดไอเดียของขวัญปีใหม่ พิเศษสำหรับตัวเองและคนสำคัญ

เทศกาลปีใหม่ 2566 ขยับใกล้เข้ามา สำหรับผู้ที่ต้องการสรรหาของขวัญพิเศษสำหรับตัวเองและสำหรับคนรู้ใจในยุคดิจิทัลกับผลิตภัณฑ์พิเศษที่จำเป็นต้องใช้  Apple นำเสนอไอเดียด้วยข้อมูลและสายผลิตภัณฑ์ต่างๆ หลากหลายที่จำหน่ายอยู่ในปัจจุบัน

ของขวัญปีใหม่สุขใจผู้ให้…ถูกใจผู้รับ ด้วยข้อเสนอบริการเริ่มต้นจาก 139 บาท/เดือน และผลิตภัณฑ์ใหม่ที่เริ่มต้น 1,190 บาท ตั้งแต่ผลิตภัณฑ์ AirTag ไปจนถึง MacBook Pro… ไปดูกันว่ามีอะไรบ้าง

iPhone 14 และ iPhone 14 Plus

  • มอบของขวัญอัปเกรดให้กับคนที่คุณรักในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ด้วย iPhone 14 (จอภาพ 6.1 นิ้ว) หรือ iPhone 14 Plus (จอภาพ 6.7 นิ้ว) ที่มีระบบกล้องสุดล้ำพร้อมคุณสมบัติใหม่ๆ เช่น โหมดแอ็คชั่น, ความสามารถด้านความปลอดภัยที่ล้ำสมัยอย่าง SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมและการตรวจจับการชนกัน, แบตเตอรี่ที่ใช้ได้ยาวนานตลอดวัน, คุณสมบัติความทนทานระดับแนวหน้าของอุตสาหกรรม, A15 Bionic พร้อม GPU แบบ 5-core เพื่อกราฟิกที่ดียิ่งขึ้น และ 5G
  • iPhone 14 เริ่มต้นที่ 32,900 บาท มีวางจำหน่ายในสีน้ำเงิน, สีม่วง, สีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์ และ (PRODUCT)RED

iPhone 14 Pro และ iPhone 14 Pro Max

  • ตัวเลือกสำหรับครีเอเตอร์หรือผู้ที่ต้องการอุปกรณ์ที่ทรงพลัง iPhone 14 Pro (จอภาพ 6.1 นิ้ว) และ iPhone 14 Pro Max (จอภาพ 6.7 นิ้ว) มาพร้อมระบบกล้องระดับโปรที่น่าทึ่งด้วยกล้องหลักความละเอียด 48MP, Dynamic Island ซึ่งเป็นวิธีใหม่ในการโต้ตอบกับการแจ้งเตือนและกิจกรรม, จอภาพแบบติดตลอดบน iPhone เป็นครั้งแรก, ชิป A16 Bionic อันทรงพลัง, SOS ฉุกเฉินผ่านดาวเทียมและการตรวจจับการชนกันเพื่อความสบายใจ, แบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวัน และ 5G 

iPhone SE

  • iPhone SE เจเนอเรชั่นถัดไปที่ขับเคลื่อนด้วย A15 Bionic มาพร้อมแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานขึ้น, ดีไซน์อันเป็นเอกลักษณ์พร้อมปุ่มโฮมสำหรับผู้ที่ชื่นชอบประสบการณ์การใช้งาน iPhone แบบคลาสสิก, ระบบกล้องอันทรงพลังพร้อมคุณสมบัติการประมวลผลถ่ายภาพด้วยคอมพิวเตอร์ที่น่าทึ่ง และ 5G  
  • iPhone SE เริ่มต้นที่17,900 บาทมีวางจำหน่ายในสีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์ และ (PRODUCT)RED

    Apple Watch SE

    • Apple Watch SE ใหม่มาพร้อมประสบการณ์หลักของ Apple Watch ซึ่งรวมถึงการติดตามกิจกรรม การแจ้งเตือนอัตราการเต้นของหัวใจเร็วหรือช้า และ SOS ฉุกเฉิน ตลอดจนคุณสมบัติการตรวจจับการชนกันใหม่และฝาหลังตัวเรือนที่ออกแบบมาใหม่หมดซึ่งเข้ากับตัวเรือนแบบคลาสสิกทั้งสามแบบได้อย่างลงตัว ทั้งหมดนี้ในราคาที่เป็นเจ้าของได้ง่ายกว่าเดิม 
    • Apple Watch SE เริ่มต้นที่9,900 บาทมีวางจำหน่ายในสีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์ และสีเงิน

      Apple Watch Series 8

      • Apple Watch Series 8 มาพร้อมดีไซน์อันเป็นที่รักของ Apple Watch ซึ่งรวมถึงจอภาพ Retina
        ขนาดใหญ่แบบติดตลอด และด้านหน้าแบบคริสตัลอันแข็งแกร่งที่ทนการแตกร้าวได้ ด้วยความที่ Apple Watch Series 8 มีแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ยาวนานถึง 18 ชั่วโมง และมีการพัฒนาต่อยอดจากคุณสมบัติด้านสุขภาพและความปลอดภัยที่ดีที่สุดในอุตสาหกรรมอย่างแอป ECG และการตรวจจับการล้ม ครั้งนี้จึงเปิดตัวมาพร้อมกับความสามารถในการตรวจจับอุณหภูมิ การคาดคะเนช่วงไข่ตกย้อนหลัง
        การตรวจจับการชนกัน และการโรมมิ่งระหว่างประเทศ 

      Apple Watch Ultra

      • Apple Watch Ultra มาในดีไซน์ใหม่ที่โดดเด่นสะดุดตาและคุณสมบัติอันหลากหลายที่สร้างมาสำหรับกีฬาที่เน้นความทนทานของร่างกาย การสำรวจ และการผจญภัย ซึ่งรวมถึงตัวเรือนไทเทเนียมขนาด 49 มม. และด้านหน้าแบบผลึกแซฟไฟร์ที่แบนเรียบที่เผยให้เห็นจอภาพ Apple Watch ที่ใหญ่ที่สุดและสว่างที่สุดเท่าที่เคยมีมา Apple Watch Ultra มีอายุการใช้งานแบตเตอรี่ที่ดีที่สุดในบรรดา Apple Watch ทุกรุ่น โดยใช้งานได้สูงสุด 36 ชั่วโมงระหว่างการใช้งานปกติ
      • Apple Watch Ultra วางจำหน่ายในราคา 31,900 บาท โดยมีสายแบบ Trail Loop, Alpine Loop และ Ocean Band ให้เลือก

      iPad

      • iPad ใหม่ทั้งมากความสามารถ ใช้งานได้อเนกประสงค์ และสนุกสนานมากกว่าที่เคย ด้วยดีไซน์ใหม่หมดใน 4 สีใหม่ที่โดดเด่น, จอภาพ Liquid Retina ขนาดใหญ่ 10.9 นิ้ว, ชิป A14 Bionic, กล้องหน้าในแนวนอนเป็นครั้งแรก, 5G, USB -C, การรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 1) และ Magic Keyboard Folio แบบใหม่หมด และอีกมากมาย 
      • iPad เริ่มต้นที่ 17,900 บาท มีวางจำหน่ายในสีฟ้า สีชมพู สีเหลือง และสีเงิน

      iPad Pro

      • iPad Pro ใหม่ที่ขับเคลื่อนโดยชิป M2 มาพร้อมประสิทธิภาพอันน่าทึ่งและเทคโนโลที่ล้ำหน้าที่สุด ซึ่งรวมถึงประสบการณ์การยกปลาย Apple Pencil สุดล้ำ, การบันทึกวิดีโอ ProRes, การเชื่อมต่อแบบไร้สายที่เร็วสุดแรง และคุณสมบัติ iPadOS 16 อันทรงพลัง 
      • iPad Pro รุ่น 11 นิ้ว เริ่มต้นที่ 32,900 บาทและ iPad Pro รุ่น 12.9 นิ้วเริ่มต้นที่ 44,900 บาท มีวางจำหน่ายในสีเทาสเปซเกรย์และสีเงิน

      iPad Air

      • iPad Air ที่มาในหลากหลายสีสันได้ก้าวข้ามขีดจำกัดของความคิดสร้างสรรค์ ประสิทธิภาพการทำงาน และการแสดงความเป็นตัวเองไปอีกขั้นทั้งสำหรับคอนเทนต์ครีเอเตอร์และผู้ใช้งานทั่วไป iPad Air มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 10.9 นิ้ว, ชิป M1 สุดล้ำ, กล้องหน้าอัลตร้าไวด์พร้อมคุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลาง, พอร์ต USB-C ที่มีความเร็วในการถ่ายโอนข้อมูลเร็วขึ้นสูงสุด 2 เท่า, 5G, การรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) และอีกมากมาย 
      • iPad Air เริ่มต้นที่ 23,900 บาท มีวางจำหน่ายในสีฟ้า, สีชมพู, สีม่วง, สีสตาร์ไลท์ และสีเทาสเปซเกรย์ 

      iPad mini 

      • iPad mini นำความสามารถอันน่าทึ่งมาไว้ในมือของผู้ใช้ด้วยดีไซน์ที่พกพาสะดวกเป็นพิเศษและประสิทธิภาพอันทรงพลัง iPad mini มาพร้อมจอภาพ Liquid Retina ขนาด 8.3 นิ้ว, ชิป A15 Bionic, กล้องหน้าและกล้องหลังสุดล้ำ, คุณสมบัติจัดให้อยู่ตรงกลาง, USB-C, 5G, การรองรับ Apple Pencil (รุ่นที่ 2) และอีกมากมาย
      • iPad mini เริ่มต้นที่  19,900 บาท มีวางจำหน่ายในสีชมพู, สีม่วง, สีสตาร์ไลท์ และสีเทาสเปซเกรย์

      MacBook Air พร้อมชิป M2

      • ให้รางวัลตัวเองหรือคนที่คุณรักในช่วงเทศกาลวันหยุดนี้ด้วย MacBook Air ที่ออกแบบใหม่หมดพร้อมชิป M2 โดยรุ่นนี้มาในดีไซน์ที่บางและเบากว่าเดิมใน 4 สีสันสวยงาม พร้อมการทำงานที่รวดเร็วขึ้น จอภาพที่ใหญ่ขึ้น กล้องความละเอียด 1080p และแบตเตอรี่ที่ใช้งานได้ตลอดวัน
      • MacBook Air พร้อมชิป M2 เริ่มต้นที่ 43,900 บาท มีวางจำหน่ายในสีมิดไนท์, สีสตาร์ไลท์, สีเทาสเปซเกรย์ และสีเงิน

      MacBook Pro รุ่น 13 นิ้วพร้อมชิป M2

      • มอบของขวัญให้กับพลังสร้างสรรค์ในตัวคุณด้วย MacBook Pro รุ่น 13 นิ้ว ซึ่งเป็นโน้ตบุ๊กระดับ Pro ที่พกพาสะดวกที่สุดของ Apple มาพร้อมประสิทธิภาพอันน่าทึ่งของชิป M2, หน่วยความจำขนาดสูงสุด 24GB, การเร่งความเร็ววิดีโอ ProRes และแบตเตอรี่อันเหลือเชื่อที่สามารถเล่นวิดีโอได้สูงสุด 20 ชั่วโมง
      • MacBook Pro เริ่มต้นที่ 46,900 บาท มีวางจำหน่ายในสีเทาสเปซเกรย์และสีเงิน

      iMac รุ่น 24”

      • แจกความสดใสในวันหยุดด้วยสีสันของiMacที่มาพร้อมดีไซน์กะทัดรัดอันน่าทึ่ง, ชิป M1 ของ Apple, จอภาพ Retina 4.5K ขนาด 24 นิ้ว พร้อมด้วยกล้อง ไมโครโฟน และลำโพงที่น่าประทับใจ นอกจากนั้นยังมาพร้อม Touch ID ที่ทำให้ง่ายต่อการสลับโปรไฟล์ผู้ใช้ จึงถือได้ว่าเป็นสุดยอดเดสก์ท็อปสำหรับทั้งครอบครัว iMac เริ่มต้นที่42,900 บาทมีวางจำหน่ายในสีฟ้า, สีเขียว, สีชมพู, สีเงิน, สีเหลือง, สีส้ม และสีม่วง

      AirPods Pro (รุ่นที่ 2)

      •  AirPods Pro คือ AirPods ที่ล้ำหน้าที่สุดเท่าที่เคยมีมา AirPods Pro ปลดล็อคประสิทธิภาพของเสียงที่ก้าวล้ำด้วยขุมพลังของชิป H2 ใหม่ รวมถึงการอัปเกรดครั้งใหญ่สำหรับการตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟและโหมดฟังเสียงภายนอก พร้อมกันนั้นยังนำเสนอวิธีที่ไม่เหมือนใครในการสัมผัสประสบการณ์เสียงตามตำแหน่งที่เต็มอิ่มสมจริงยิ่งกว่าเดิม วันนี้ ผู้ใช้ยังสามารถปรับแต่งเคสชาร์จด้วย Memoji ในแบบของตัวเองได้แล้ว รวมถึง Memoji ที่มีท่าทางแบบเฉพาะ, Animoji และรายการสติกเกอร์ที่คัดสรรมาแล้ว
      • AirPods Pro (รุ่นที่ 2) วางจำหน่ายในราคา 8,990 บาท

      AirPods (รุ่นที่ 3)

      • AirPods เจเนอเรชั่นที่ 3 มาพร้อมระบบเสียงตามตำแหน่งที่มาพร้อมคุณสมบัติสุดล้ำและประสบการณ์สุดมหัศจรรย์ในดีไซน์ใหม่แบบโค้งมน ด้วยการรวมพลังของชิป H1 เข้ากับระบบเสียงที่ออกแบบโดย Apple AirPods ใหม่จึงสามารถใช้ระบบเสียงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์เพื่อส่งมอบเสียงที่ล้ำหน้าด้วย EQ แบบปรับได้เอง ผู้ใช้จะได้เพลิดเพลินกับระบบเสียงตามตำแหน่งในแบบ Dolby Atmos ใน Apple Music, ภาพยนตร์ และรายการทีวี พร้อมการติดตามศีรษะแบบไดนามิกในอุปกรณ์ Apple 
      • AirPods (รุ่นที่ 3) เริ่มต้นที่ 6,790 บาท

      AirPods Max

      • AirPods Max คือหูฟังไร้สายที่เป็นนวัตกรรมใหม่ซึ่งนำความมหัศจรรย์ของ AirPods มาสู่ดีไซน์แบบครอบหูพร้อมเสียงที่คมชัด AirPods Max ผสมผสานดีไซน์อะคูสติกแบบเฉพาะเข้ากับซอฟต์แวร์ขั้นสูงเพื่อขับเคลื่อนระบบเสียงที่ประมวลผลด้วยคอมพิวเตอร์ ผู้ใช้จึงได้สัมผัสกับประสบการณ์การฟังที่ล้ำหน้าด้วย EQ แบบปรับได้เอง, การตัดเสียงรบกวนแบบแอ็คทีฟ, โหมดฟังเสียงภายนอก และระบบเสียงตามตำแหน่ง 
      • AirPods Max มาในราคา19,900 บาทมีวางจำหน่ายในสีสกายบลู, สีเขียว, สีชมพู, สีเงิน และสีเทาสเปซเกรย์