- รายได้ทุบสถิติพุ่งเกินแสนล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกเพิ่มขึ้น 21%
- สวนกระแสวิกฤตโควิด-19 iPhone 12 Series ขายดี
- ทำงาน-เรียนออนไลน์ดันการใช้ Mac และ iPad พุ่ง
- “ทิมคุก” เผยทั่วโลกใช้อุปกรณ์ Apple กว่า 1,650 ล้านเครื่อง
Apple รายงานผลประกอบการในไตรมาสแรกของปีงบประมาณ 2021 ซึ่งเป็นไตรมาสสุดื้านของปีที่ผ่านมา สิ้นสุดมื่อวันที่ 26 ธันวาคม 2020 มีรายได้ประจำไตรมาสที่ 1.114 แสนล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 3.34 ล้านล้านบาท ซึ่งเป็นสถิติใหม่ของบริษัท เพิ่มขึ้น 21% เมื่อเปรียบเทียบกับช่วงเดียวกันในปีก่อนหน้า พร้อมกำไรสุทธิประจำไตรมาส 1.68 ดอลลาร์ต่อหุ้นปรับลด เพิ่มขึ้น 35% ยอดขายในต่างประเทศถือเป็น 64% ของรายได้ประจำไตรมาส
ทั้งนี้ในช่วงปลายปีนับเป็นช่วงเทศกาลการขายสินค้า แม้ว่าจะมีการแพร่ระบาดไวรัสโควิด-19 ทั่วโลก และร้าน Apple Store หลายสาขาต้องปิดตัวลงเพื่อป้องกันการแพร่ระบาด แต่ไม่อาจสร้างผลกระทบทางด้านยอดขายได้ อีกทั้งเป็นการสร้างสถิติใหม่ให้กับบริษัท
โดย iPhone 12 Series ที่ถูกเลื่อนเปิดตัวและว่างจำหน่ายในช่วงไตรมาสสุดท้ายได้สร้างยอดขายถล่มทลาย ส่วนหนึ่งเป็นเพราะรองรับ 5G รุ่นแรก ทำให้ลูกค้าจำนวนมากได้ตัดสินค้าอัพเกรดครั้งใหญ่ ทำให้รายได้เฉพาะ iPhone ทำสถิติใหม่ที่ 6.5 หมื่นล้านดอลลารฯ หรือราว 1.95 ล้านล้านบาท เพิ่มขึ้นจากที่เคยทำนิวไฮไว้ที่ 6.16 หมื่นล้านดอลลาร์ในช่วงไตรมาสแรกของปี 2018
สำหรับผลิตภัณฑ์ Mac และ iPad ของ Apple มียอดขายพุ่งสูงขึ้นในช่วงที่ต้องทำงานที่บ้านและการศึกษาระยะไกลเป็นเวลานาน โมเมนตัมของยอดขายยังคงดำเนินต่อไปในไตรมาสล่าสุดนี้โดยยอดขาย iPad เพิ่มขึ้น 41% ในช่วงวันหยุดและยอดขาย Mac เพิ่มขึ้น 21%
ทิม คุก ซีอีโอ ของ Apple กล่าวกับนักลงทุนว่า ไตรมาสล่าสุดมีผู้ใช้ผลิตภัณฑ์ Apple ทั่วโลกกว่า 1,650 ล้านเครื่อง ซึ่งจำนวนนี้เป็นการใช้ iPhone มากกว่า 1,000 ล้านเครื่อง
สำหรับผลิตภัณฑ์สวมใส่ อย่างหูฟังไร้สาย AirPods, AirPods Pro และ นาฬิกา Apple Watch ก็ทำรายได้พุ่ง 30% ขณะที่ธุรกิจบริการซึ่งประกอบไปด้วย Apple Music, Apple Arcade, Apple TV Plus และ Apple News Plus เพิ่มขึ้น 24%
“ไตรมาสนี้ของ Apple คงจะเป็นไปไม่ได้หากปราศจากการทำงานอย่างไม่รู้จักเหน็ดเหนื่อย และความคิดสร้างสรรค์ของทีมงาน Apple ทุกคนทั่วโลก” ทิม คุก กล่าวและว่า “เราพึงพอใจกับการตอบรับอย่างกระตือรือล้นของลูกค้าต่อกลุ่มผลิตภัณฑ์ที่ไม่มีใครเทียบเคียงได้ที่เราส่งมอบตลอดเทศกาลวันหยุด เรายังคงให้ความสำคัญกับการให้ความช่วยเหลือแก่ชุมชนที่เราได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่ง เพื่อสร้างความแข็งแกร่งและเสมอภาค ผ่านการริเริ่มโครงการ Racial Equity and Justice และพันธะสัญญาในการลงทุนอย่างต่อเนื่องในสหรัฐอเมริกาเป็นเวลาหลายปีมูลค่า 3.5 แสนล้านดอลลาร์”
